ข้อความในอัฏฐสาลินี ได้อธิบายชิวิตินทรียะ ซึ่งเป็นนามธรรม มีข้อความว่า ที่ชื่อว่า ชีวิต เพราะเป็นเหตุให้ธรรมที่สัมปยุตต์ด้วยชีวิตนั้นเป็นอยู่ได้ ชื่อว่า อินทรียะ
ถ้าไม่ได้ฟังธรรมให้เข้าใจความจริงของชีวิต เราก็เข้าใจผิดเห็นผิดยึดถือร่างกายนี้ว่าเป็นเราที่มีชีวิตอยู่ แต่ตามความเป็นจริง ชีวิตเป็นเพียงจิต เจตสิก รูป ที่เกิดดับสืบต่อ พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ชีวิต เป็นเพียงชั่วขณะจิตที่เกิดขึ้นแล้วดับไป ซึ่งแท้จริงชีวิตแสนสั้น เพียงชั่วขณะจิตที่เกิดดับคือ ขณิกมรณะ เป็นการตายทุกๆ ขณะของจิตที่เกิดดับ ส่วนสมมติมรณะ เป็นความตายที่สมมติว่าคนนี้ตาย คนนั้นตาย สำหรับสมุจเฉทมรณะนั้นเป็นการตายของพระอรหันต์เป็นการตายที่ไม่มีปัจจัยให้สภาพธรรมเกิดได้อีกเลยเพราะท่านดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉท ไม่ว่าเป็นการตายอย่างไหนก็ไม่พ้นการเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม ถ้าไม่มีจิต เจตสิก รูป ก็ไม่มีบุคคลนั้น บุคคลนี้ ไม่มีสัตว์ บุคคลตาย มีแต่สภาพธรรมเกิดแล้วดับ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ขีวิต คืออายุมีประมาณน้อย ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ไม่ควรประมาทอยู่เพื่อเข้าใจธรรม มีเพียงความเข้าใจธรรมเท่านั้นที่จะค่อยๆ ขัดเกลากิเลสและดับกิเลสได้หมดสิ้นเป็นสมุจเฉท จะได้พ้นจากการเกิด การตายได้.
ขอเชิญคลิกฟังได้ที่...
ชีวิตินทรีย์อุปถัมภ์สหชาตธรรมให้เป็นไปได้
เชิญคลิกอ่านเพิ่มเตืมได้ที่...
จิตคืออะไร จิตอยู่ที่ไหน จิตมีจริงเพียงชั่วคราว
..กราบเท้าบูชาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง..
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ขีวิต คือ อายุมีประมาณน้อย ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ ไม่ควรประมาทอยู่เพื่อเข้าใจธรรม มีเพียงความเข้าใจธรรมเท่านั้นที่จะค่อยๆ ขัดเกลากิเลสและดับกิเลสได้หมดสิ้นเป็นสมุจเฉท จะได้พ้นจากการเกิด การตายได้