การเผชิญหน้ากันระหว่างฝ่ายต่างๆ ต่างฝ่ายต่างก็มีความโกรธ ความโกรธที่เกิดจากความไม่ได้สิ่งที่ต้องการ สิ่งที่อยากได้ซึ่งไม่พ้นไปจากกามารมณ์ มีแต่อกุศลและอกุศลเกิดขึ้นสะสมต่อไป เพิ่มกำลังของอกุศลอยู่ในจิตขณะต่อไปเรื่อย...มีแต่ขาดทุน
ขณะนี้เรากำลังอยู่ในสงครามหรือเปล่า? ขณะนี้เรากำลังอยู่ในสงครามของโลภะ โทสะ เราจะมีความโกรธตอบอีกฝ่ายหรือเปล่า ความโกรธที่เพิ่มกำลังขึ้นเป็นเหตุให้ล่วงอกุศลกรรมทางวาจาและทางใจ ขาดทุนยิ่งกว่าขาดทุน สิ่งเดียวที่จะช่วยได้คือ เราเองมีความเข้าใจพระธรรม พิจารณาไตร่ตรองให้ดีกับการกระทำใดๆ มนสิการโดยแยบคายหรือเปล่า เราจะให้จิตเป็นไปกับอกุศลหรือ? หรือควรที่จะมีเมตตาต่ออีกฝ่ายพูดดีกับเขาได้ไหม ปฎิบัติดีต่อเขาแม้จะเกื้อกูลให้อีกฝ่ายเข้าใจธรรมไม่ได้ ไม่ว่าจะจะอยู่ในเหตุการณ์อย่างไร การอบรมความเข้าใจธรรมจะช่วยให้เข้าใจว่า ทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ เป็นเพียงธรรมะที่เกิดขึ้นเท่านั้น เป็นไปตามเหตุปัจจัย และการช่วยให้อีกฝ่ายหรือผู้อื่นได้มีโอกาสได้เข้าใจพระธรรมจึงเป็นประโยชน์สูงสุด
การเข้าใจธรรมเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยได้ในเหตุการณ์ทุกๆ เหตุการณ์
...ขออนุโมทนาค่ะ...
"...สิ่งเดียวที่จะช่วยได้คือ เราเองมีความเข้าใจพระธรรม พิจารณาไตร่ตรองให้ดีกับการกระทำใดๆ มนสิการโดยแยบคายหรือเปล่า..."
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแหละค่ะ
อย่าตกใจหวั่นไหวไปเลย
เพราะธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
แม้ความตายมาพราก......ก็ยังจากไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ
เหตุการณ์บ้านเมือง..ใครชนะและใครแพ้..?[เล่มที่ 56] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เอกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๒ - หน้าที่ 171
"ผู้ที่ชนะหมู่มนุษย์ในสงคราม ถึงหนึ่งล้านคน ยังสู้ผู้ที่ชนะตนเพียงผู้เดียวไม่ได้ ผู้นั้นเป็นจอมทัพสูงสุด โดยแท้ " ดังนี้.
จบ อรรถกถากุททาลชาดกที่ ๑๐
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นความจริงที่ว่า แต่ละบุคคลมีการสะสมมาที่แตกต่างกัน ความคิด การกระทำและคำพูด ก็แตกต่างกันออกไปตามการสะสม มีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งเมื่อว่าโดยสภาพธรรมแล้ว ก็ไม่มีตัวตนสัตว์บุคคลเลย มีแต่ความเป็นไปของสภาพธรรม กล่าวคือ นามธรรม กับ รูปธรรม เท่านั้น
ถ้ามีการไตร่ตรองพิจารณาเข้าใจในเหตุในผลของธรรมจริงๆ ก็จะมีความเข้าใจ มีความเห็นใจ มีเมตตาในบุคคลนั้นๆ ซึ่งประพฤติไม่ดี ได้ แทนที่จะรีบโกรธ แทนที่จะรีบไม่พอใจอย่างรุนแรงก็ควรที่จะคิดพิจารณาว่า การที่บุคคลเหล่านั้น เป็นอย่างนั้นได้ ต้องมีเหตุมีปัจจัยที่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น เมื่อเขาเป็นอย่างนั้นแล้ว ก็ควรที่จะเข้าใจ เห็นใจ แล้วก็ช่วยเท่าที่สามารถจะช่วยได้ (ในฐานะที่เป็นพลเมืองคนหนึ่ง) ตามกำลังของแต่ละบุคคล ย่อมจะเป็นประโยชน์กว่าความโกรธ ความไม่พอใจ เป็นแน่ (เพราะเหตุว่าความโกรธ ความไม่พอใจ ไม่เป็นประโยชน์กับใครเลยแม้แต่นิดเดียว) แต่ถ้าโกรธขึ้นมาคราใด ก็ขอให้ทราบว่า ไม่เข้าใจคนเหล่านั้นและไม่เห็นใจเขาด้วย จึงได้โกรธเขา พระธรรมจึงเป็นประโยชน์เกื้อกูลสำหรับทุกกาละสมัยจริงๆ ครับ (สำหรับเตือนตัวเองอย่างแท้จริงครับ)
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
พิจารณาตน
เตือนตน
ไม่เพลินไปในสภาพธรรม
ที่เป็นโทษมากนัก
......................
ด้วยความเคารพธรรม สมควรแก่ธรรมค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาที่เห็นเป็น โลภะ โทสะ และไม่โกรธกับผู้ที่กำลังมีอกุศล ผู้ศึกษาธรรมต้องรู้อยู่แล้วว่า โกรธเป็นอกุศล แต่อยากจะบอกว่าเหตุการบ้านเมื่องในขณะนี้นะ
ทีรุนแรงขึ้นนั้นไม่ใช่ธรรมดา พระพุทธเจ้าตรัสว่า
"เมื่อฝูงโคข้ามแม่น้ำอยู่ ถ้าโคผู้นำไปคตไซร้ โคเหล่านั้นทั้งหมดย่อมไปคต เพราะมีผู้นำไปคต ถ้าผู้นำประพฤติธรรมไซร้ จะกล่าวไปไยถึงปวงประชาก็ประพฤติธรรมเหมื่อนกัน แว่นแคว้นทั้งหมด จะประสพความทุกข์ เพราะผู้นำไม่ตั้งอยู่ในธรรม ดังนี้"
ปัจจัยการศึกษาต้องมีความสงบ และเป็นที่เหมาะควร ถ้าเหนื่อยอยู่ เจ็บอยู่ การศึกษาก็เป็นไปได้ยาก และไม่ได้ผล จึงไม่ควรทอดทิ้งธุระนี้ รักษาบ้านเมื่องเท่าที่ทำได้ให้สงบโดยการส่งเสริมโคที่สามารถนำทางได้ตรง ครับ ลองคึดดูซิว่า ถ้ามี่คนสามกลุ่ม มีอาวุธร้ายแรงด้วยกันทั้งนั้น ทำสงครามกลางเมื่องกันเพื่อแย่งอำนาจ แล้งเราจะอยู่เป็นสุขได้อย่างไร
โปรดอ่าน ฑีฆนขสูตร - ทิฎฐิเป็นเหตุให้วิวาท ใน...
เชิญคลิกอ่าน...
ธรรมที่ทรงแสดงแก่ทีฆนขปริพาชก [ทีฆนขสูตร]
ขออนุโมทนาในกุศลจิตครับ
ไม่ว่าจะ
จะอยู่ในเหตุการณ์อย่างไร การอบรมความเข้าใจธรรมจะช่วยให้เข้าใจว่า ทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ เป็นเพียงธรรมะที่เกิดขึ้นเท่านั้น เป็นไปตามเหตุปัจจัย และการช่วยให้อีกฝ่ายหรือผู้อื่นได้มีโอกาสได้เข้าใจพระธรรมจึงเป็นประโยชน์สูงสุด
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด
ขออนุโมทนาครับ