* เมื่อไม่เข้าใจโลกตามความเป็นจริง ก็มีความเห็นผิด ๒ อย่าง คือ
- เห็นผิดว่าเที่ยง ว่ามี คงที่ ยั่งยืน เพราะไม่เข้าใจในความดับไปของสิ่งที่เกิดจากเหตุปัจจัย
- เห็นผิดว่าขาดสูญ ว่าไม่มี เพราะไม่เข้าใจในความเป็นปัจจัยที่ทำให้สภาพธรรมเกิดขึ้น
* คำสอนในพระพุทธศาสนาปฏิเสธความเห็นผิดทั้ง ๒ อย่าง ด้วยการแสดงทางสายกลางคือปัญญาที่รู้จักโลกตามความเป็นจริง คือสังขารโลก
* สังขารโลก คือสภาพธรรม (ได้แก่ จิต เจตสิก รูป) ที่อาศัยปัจจัยปรุงแต่งจึงเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องดับไป ซึ่งก็คือเดี๋ยวนี้เองที่มีสิ่งที่กำลังปรากฏแต่ละหนึ่ง ซึ่งเกิดจากเหตุปัจจัย แล้วก็ดับไปในทุกๆ ขณะ เช่น สี เสียง เห็น ได้ยิน คิดนึก
* เมื่อได้ฟังพระธรรม มีความเข้าใจสภาพธรรมที่ไม่ใช่เรา ซึ่งเกิดดับตามปัจจัย ก็จะค่อยๆ รู้จักโลกตามความเป็นจริง ตั้งแต่ในขั้นการฟัง จนถึงขั้นของปัญญาที่คมชัดสามารถประจักษ์แจ้งในความเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง จึงจะรู้จักสังขารโลกอย่างชัดแจ้ง
* เมื่อประจักษ์การเกิดขึ้นของสภาพธรรม จึงละคลายความเห็นผิดว่าขาดสูญ ว่าไม่มี เพราะรู้ชัดในความเป็นเหตุปัจจัยที่ปรุงแต่งให้สภาพธรรมนั้นเกิดปรากฏ มีขึ้น
* เมื่อประจักษ์การดับไป สิ้นไปของสภาพธรรม จึงละคลายความเห็นผิดว่าเที่ยง ว่ามี คงที่ ยั่งยืน เพราะรู้ชัดในสภาพที่ดับไปไม่เหลือ และไม่กลับมาอีกเลยของสิ่งที่เกิดปรากฏแต่ละหนึ่ง
* ดังนั้น จึงมีสภาพธรรมที่เกิดจากเหตุปัจจัย และเมื่อสภาพธรรมนั้นดับไป ก็จะไม่มีสภาพธรรมนั้นย้อนกลับมามีอีกเลย นี่คือความเป็นจริงของโลกในขณะนี้เอง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ