เป็นพ่อบ้าน ได้กู้ธนาคารมาสร้างบ้าน พยายามผ่อนจนเป็นไทแก่ตัวเอง แต่แม่บ้านยังหาหนี้มาให้ใหม่ พยายามอธิบายว่ามันเป็นหนี้ที่ไม่จำเป็น แต่เขาก็ไม่ฟังพยายามนึกหลักธรรมว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่ทราบว่าถูกต้องหรือไม่ครับ

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แต่ไม่ใช่ให้ปล่อยไปตามกรรม ควรตักเตือนสั่งสอนและให้อภัยในความผิดพลาดที่ผ่านไปแล้ว การอยู่ร่วมกันต้องพึ่งพาอาศัย ช่วยเหลือจุนเจือกันซึ่งกันและกัน รู้จักที่จะเป็นผู้ให้และผู้รับและเสียสละบ้างเป็นครั้งคราว

ขอเชิญคลิกอ่านที่นี่

การบำรุงในกันและกัน ของสามีและภรรยา

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ถ้าไม่เกิดก็คงไม่เป็นหนี้ (เงิน) ที่เกิดก็เพราะเป็นหนี้ (อกุศล) แต่หนี้ สองข้อที่

กล่าวมาต่างกันซึ่งจะขอยกข้อความในพระไตรปิฎก ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่

จะคลายทุกข์จนหมดไม่มีเหลือ คือ ศึกษาธรรมในแนวทางที่ถูกต้องเพื่อดับ หนี้

คือ อกุศล

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ 665 ข้อความบางตอนจาก อิณสูตร

พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ความเป็นคนจนก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การกู้ยืมก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลกแม้การรับใช้ดอกเบี้ยก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การทวงก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การติดตามก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การจองจำก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลกด้วยประการฉะนี้.

เรื่อง การกู้ยืม

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม บุคคลนี้เรียกว่า เป็นคนเข็ญใจยากไร้ในวินัยของพระ-อริยเจ้า ฉันนั้นเหมือนกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้นั้นแลเมื่อไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรมไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกายวาจา ใจ เรากล่าวการประพฤติทุจริตของเขาว่า เป็นการกู้ยืม

เรื่อง การใช้ดอกเบี้ย เขาย่อมตั้ง ความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการปกปิดกายทุจริต

นั้น ย่อมปรารถนาว่า ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา ย่อมดำริ ย่อมกล่าววาจา

ย่อมพยาบาทด้วยกายว่า ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา เขาย่อมตั้งความ

ปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการปกปิดวจีทุจริตนั้น ฯลฯ เขาย่อม

ตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการ ปกปิดมโนทุจริตนั้น ย่อม

ปรารถนาว่า ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา. . .ย่อมพยายามด้วยกายว่า ชนเหล่า

อื่นอย่ารู้จักเรา เรากล่าวเหตุการปกปิดทุจริต ของเขานั้นว่า เป็นการรับใช้

ดอกเบี้ย

เรื่อง การทวงดอกเบี้ย เพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีลเป็นที่รักได้กล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า ก็ท่านผู้มีอายุ

รูปนี้ เป็นผู้กระทำอย่างนี้ เป็นผู้ประพฤติอย่างนี้ เรากล่าวการถูกว่ากล่าว

ของเขาว่า เป็นการทวงดอกเบี้ย

เรื่อง เจ้าหนี้ติดตาม

อกุศลวิตกที่เป็นบาปประกอบด้วยความเดือดร้อน ย่อมครอบงำเขา ผู้อยู่ป่า ผู้อยู่โคนไม้ หรือผู้อยู่ในเรือนว่าง เรากล่าวการถูกอกุศลวิตกครอบงำนี้ของเขาว่า

เจ้าหนี้ติดตามเขา

เรื่อง การเข้าเรือนจำ เพราะกู้ยืม

คนจนเข็ญใจยากไร้นั้นแล ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจเมื่อตายไป

แล้วย่อมถูกจองจำ ในเรือนจำ คือ นรก หรือในเรือนจำ คือกำเนิดดิรัจฉาน

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่พิจารณาเห็นเรือนจำอื่นเพียงแห่งเดียว ซึ่ง

ร้ายกาจ เป็นทุกข์ กระทำอันตรายแก่การบรรลุนิพพานซึ่งเป็นธรรมเกษมจาก

โยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ อย่างนี้ เหมือนเรือนจำ คือนรก หรือเรือน

จำ คือ กำเนิดดิรัจฉานเลย.

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

อีกนัยหนึ่งท่านเปรียบมารดาบิดา ผู้ให้กำเนิดเราเลี้ยงดูเราเป็นเจ้าหนี้ บุตรเป็น

ลูกหนี้ เวลาท่านแก่ชราเราก็ตอบแทนบุญคุณท่าน เลี้ยงดูท่าน เป็นการใช้หนี้

ค่ะ ส่วนการที่เราเจอสามีหรือภรรยาที่เป็นคนดีมีศีลธรรม ก็เป็นบุญเป็นกุศลของ

คนนั้น ถ้าเจอสามีหรือภรรยานิสัยไม่ดี ไม่มีคุณธรรม ก็เป็นอกุศลกรรมของคน

นั้นเช่นกันค่ะ

ถ้าเช่นนั้น ทุกชีวิตก็เป็นหนี้ จนกว่าจะดับขันธปรินิพพาน เพราะไม่รู้ว่าจะไปทวงหนี้กับใคร พระอรหันต์ท่านไม่สร้างหนี้ใหม่ เพราะหมดกิเลส แต่ก็ยังมีหนี้ค้างชำระ คือ วิบากกรรม ท่านสุทัศน์ ท่านเบาใจได้แล้วนะคะ เพราะไม่มีใครที่ไม่มีหนี้

ขออนุโมทนา