ในวาระสุดท้ายของชีวิต ควรตรึกนึกหรือระลึกสิ่งใดให้เป็นที่เกาะยึดของจิต
โดย supim  26 ก.ค. 2566
หัวข้อหมายเลข 46308

หากเรารู้ว่ากำลังจะหมดลมหรือกำลังจะตายในไม่ช้า ตราบที่ยังมีสติอยู่ควรน้อมระลึกอยู่ในอารมณ์ใด บ้างก็ว่าระลึกอยู่กับลมหายใจเข้าออกจนกว่าจะหมดลมไปในที่สุด? หรือนึกถึงพระพุทธรูป พระอริยสงฆ์อริยบุคคลหรือคุณความดีที่เคยทำในอดีต? หรือบ้างก็เปิดบทสวดมนต์ให้ฟัง ในพระไตรปิฎกมีกล่าวถึงตรงไหนไหมคะ



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 27 ก.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
จากประเด็นคำถาม ไม่มีข้อความที่แสดงไว้อย่างนั้นเลย เพราะเป็นไปไม่ได้ ไม่มีใครทำอะไรได้เลย เพราะไม่มีใครรู้ว่าตนเองจะตายเมื่อไหร่ เพราะเป็นเรื่องของผลของกรรมที่จะทำให้สิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้ ถ้าทำได้ ทุกคนก็จะไม่ไปเกิดในอบายภูมิเลย มีแต่จะเกิดในสุคติภูมิ เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว ไม่มีใครทำได้ เพราะเป็นไปตามเหตุปัจจัย ดังนั้น สิ่งที่เป็นประโยชน์ คือ ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็เป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา และเจริญกุศลสะสมความดีทุกประการ ความดีที่สะสมไว้นี้ ไม่สูญหายไปไหน สามารถเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดผลที่ดีในภายหน้าได้ แต่ก็ไม่สามารถจะทราบได้ว่าจะให้ผลในชาติไหน ส่วนกรณีเมื่อจะตายนั้น กรรมใดจะให้ผลที่จะนำเกิดในชาติต่อไป ก็ตามเหตุตามปัจจัย เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ


คำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้ .-
ควรพิจารณาการให้ผลของกรรมที่จะทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดว่า ต้องเป็นกรรมที่ได้กระทำสำเร็จแล้วกรรมหนึ่งกรรมใดเป็นชนกกรรม หมายความถึงกรรมที่ทำให้ปฏิสนธิจิตเกิดต่อจากจุติจิต ไม่ใช่ว่าจะขวนขวายทำตอนที่จุติจิตจะเกิด ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าเป็นไปได้ ทุกคนก็ต้องทำให้กุศลจิตเกิดก่อนจุติจิต แต่เมื่อเป็นไปไม่ได้ ก็แล้วแต่ว่ากรรมใดจะให้ผล ซึ่งต่อไปจะทราบว่า ในประเภทของกรรมต่างๆ นั้น กรรมใดที่จะทำชนกกิจหรือเป็นชนกกรรมทำให้ปฏิสนธิจิตเกิด แต่ต้องเป็นกรรมที่ได้กระทำแล้ว ไม่ใช่จะมารีบด่วนกระทำก่อนจุติจิตจะเกิด เพราะไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ว่าจุติจิตจะเกิดเมื่อไร
เพราะฉะนั้น กรรมที่ได้กระทำแล้วทั้งหมดในสังสารวัฏฏ์ กรรมหนึ่งกรรมเดียวเท่านั้น จะทำให้กรรมนิมิตอารมณ์ หรือคตินิมิตอารมณ์ หรือกรรมอารมณ์ เกิดขึ้นปรากฏเป็นอารมณ์ของชวนจิตสุดท้ายก่อนจุติ เลือกไม่ได้เลย แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นกรรมซึ่งกระทำในขณะนั้นทันที แต่จะเป็นกรรมที่กระทำใกล้กว่านั้นอีกก็ได้ คือ ก่อนที่จะถึงมรณาสันนวิถี คือ ก่อนที่จะเป็นชวนะสุดท้ายได้ อาจจะเป็นชั่วโมงหนึ่ง วันหนึ่ง สองวัน หรืออะไรก็ได้ หรืออาจจะเป็นหลายเดือนหลายปีมาแล้ว หรืออาจจะเป็นหลายชาติมาแล้ว หรืออาจจะเป็นหลายกัปมาแล้วก็ได้


... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...


ความคิดเห็น 2    โดย Naza  วันที่ 30 ก.ค. 2566

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาเจ้าค่ะ ได้รับความรู้เพิ่ม เข้าใจความจริงเพิ่มว่าทำอะไรไม่ได้ตามเหตุปัจจัยจริงๆ สิ่งที่สามารถฝึกอบรมตนได้คือฟังพระธรรมให้บ่อยๆ เนืองๆ ฟังจนติดเป็นอุปนิสัยจนชิน ฟังด้วยความใส่ใจ คิดพิจารณาทุกคำ ฟังเรื่อยๆ ตั้งแต่ยังไม่เจ็บไม่ป่วย ยังไม่แก่ เตรียมความพร้อม ด้วยการฟังให้เข้าใจ เมื่อแก่กรือใกล้จะตาย ก็บอกให้ลูกหลานเปิดให้ฟังไปเรื่อยๆ ก็ดีกว่าไม่ได้ฟังค่ะ ทำสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อเป็นเหตุปัจจัยที่ดีในกาลข้างหน้า จะได้ไม่ต้องกังวล หรือทำให้ลูกหลานมาห่วงใย ว่าตายแล้วจะไปไหน ก็ไปตามกรรมนั้นแหละเจ้าค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย Naza  วันที่ 30 ก.ค. 2566

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาเจ้าค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย Komsan  วันที่ 6 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ