หยิบของเขามาแต่เราไม่ได้ต้องการขโมยคือ เราหยิบของเขามาแล้วเราบอกว่าขอนะแต่เจ้าของเขาไม่ได้พูดอะไร และเราจะเอาไปคืนเขา เราจะอาบัติปาราชิกไหม ส่วนความกำหนัดหมายถึงยังไงช่วยอธิบายหน่อยครับ สมมติว่า มีหมอหญิงมาจับมือเราเพื่อเจาะเลือดไปตรวจจะเป็นอาบัติสังฆาทิเสสไหม ต้องมีอาการยังไงในเวลาที่มีหญิงมาโดนเรา แล้วเราจะสังฆาทิเสส ช่วยตอบด้วยนะครับ
ขอบพระคุณอย่างสูง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
หากไม่มีเจตนาที่จะลักขโมย เพียงแต่บอกเขา ว่าจะเอาไป อย่างนี้ก็ไม่ต้องอาบัติปาราชิก ครับ
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ มีความละเอียดคือ ละเอียดลงไปถึงใจที่เป็นสภาพธรรม ที่เป็นนามธรรม ที่ไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่า แต่เห็นด้วยตาปัญญา จึงมีความละเอียดลึกซึ้ง แม้แต่พระภิกษุ การจับต้องกายหญิง หากจับด้วยอำนาจความยินดีพอใจ ติดข้องกําหนัด ย่อมต้องอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าพระภิกษุมีความยินดี เอาไม้เท้าไปถูกเสื้อของผู้หญิง หรือกระเป๋า เป็นอาบัติทุกกฏ ถ้าพระภิกษุมีความยินดีเอาไม้เท้าไปถูกเนื้อของผู้หญิง เป็นอาบัติถุลลัจจัย ถ้าพระภิกษุมีความยินดี เอามือไปจับเนื้อตัวผู้หญิง เป็นอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าเสพเมถุนเป็นอาบัติปาราชิก
เพราะฉะนั้น หากไม่มีความยินดี กำหนัด ที่จงใจ จะไปจับมือมาตุคาม (ผู้หญิง) ก็ไม่ต้องอาบัติ เพราะไม่มีจิตยินดี จงใจจับต้อง ครับ
ที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงในการตรวจ ด้วยผู้หญิง เพราะ จิตไม่แน่นอน กลับกลอก อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ปัญญาและสติที่เจริญขึ้น ย่อมจะทำหน้าที่ระวัง และรู้ว่าอะไรควร หรือ ไม่ควร ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ จะแสดงถึงความละเอียดในข้อนี้
อาบัติจากการแตะต้องกายหรือของเนื่องด้วยกายของสตรี [มหาวิภังค์]
ขออนุโมทนา
จิตยินดีคือแค้เราคิดก็อาบัติเลยใช้ใหมครับคือท้าหมอผู้หญิงเค้าจับนิ้วเรา แต่เราไม่ได้ไปจงใจไปจับเขาแต่เราเกิดยินดีกับเขาก็ต้องอาบัติสังฆาทิเสสใช่ใหมครับ แล้วท่าเกิดเขาจับนิ้วเราเสร็จแล้ว แล้วเรามานึกพอใจเขาตอนหลังที่เขาจับนิ้วเราเสร็จแล้ว จะต้องอาบัติสังฆาทิเสสไหมครับ
ขออนุโมทนา
เรียน ความเห็นที่ 2 ครับ
หากมีจิตยินดี แต่ไม่ได้มีความพยายาม เอามือตนเองไปจับ ต้องกายหญิง แต่เขามาจับเอง อย่างนี้ไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ครับ
ขออนุโมทนา
ท้าไม่อาบัติสังฆาทิเสสแต่จะอาบัติรองลงมาใช่ใหมครับ ถ้าเรามีจิตยินดีแต่เราไม่ได้พยายามไปจับต้องตัวเขา
กราบขอบพระคุณครับ
ถ้าแม้มีจิตยินดี แต่ ถูกลูบด้วยกาย จาก หญิง เป็นต้น เป็นอาบัติเล็กน้อยได้ มี ทุกกฎ ครับ
ขออนุโมทนาครับอาจารย์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ได้มีเจตนาลักขโมยย่อมไม่เป็นอาบัติปาราชิก แต่ถ้าได้ทำอะไรด้วยความถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริงก็จะไม่เป็นเหตุให้ตนเองเดือดร้อนใจในภายหลังเลย สิ่งที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลที่ดี ก็คือ ความเข้าใจพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แล้วจะเข้าใจพระธรรมได้อย่างไร ก็ต้องกลับมาที่เหตุคือการฟังการศึกษาพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ
เรื่องของจิตใจ เป็นเรื่องที่ระวังยากอย่างแท้จริง ไม่ควรประมาท จะประมาทกำลังของกิเลสไม่ได้เลย เพราะอาจจะนำไปสู่การต้องอาบัติข้อต่างๆ จนถึงอาบัติหนักได้ และอาบัติที่ต้องเข้าแล้ว ไม่ว่าจะเบาหรือหนัก ถ้าไม่ได้แก้ไขกระทำคืนให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ย่อมเป็นเครื่องกั้นการบรรลุมรรคผลนิพพาน และถ้ามรณภาพลงในขณะที่ยังมีอาบัติอยู่ ก็จะเป็นผู้มีอบายเป็นที่ไปในเบื้องหน้า น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ถ้ามีจิตกำหนัด ยินดี ในขณะที่จับกายหญิงก็อาบัติได้ ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ