อยากถามเรื่องดวงจิต ตามหลักพระอภิธรรม เห็นในสิ่งที่ดีงาม เป็นจักษุวิญญาณฝ่ายกุศลหรือไม่ และเกิดความยินดี (โสมนัส) เป็นมหากุศลจิต มหาวิบากจิต หรือ โลภมูลจิตกันแน่
ตามหลักพระอภิธรรม ขณะที่จิตเห็นสิ่งที่ดีงาม จิตเป็นจักษุวิญญาณ ฝ่ายกุศลวิบากหลังจากเห็นแล้ว ชวนจิต เกิดความยินดีพอใจ (โสมนัส) ขณะนั้นจิตเป็นกุศล หรือ อกุศลก็ได้ ถ้าเห็นแล้วเกิดศรัทธาเลื่อมใส จิตเป็นกุศล แต่ถ้าเห็นแล้วชอบ ติดในความงามของสีสัน ของพระพุทธรูป จิตเป็นโลภมูลจิต ซึ่งผู้นั้นย่อมทราบด้วยสติสัมปชัญญะของตนเองว่า ขณะไหนเป็นกุศล หรืออกุศล อนึ่งสภาพจิตเกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็วมาก ผู้อื่นย่อมไม่รู้สภาพจิตของเรา
"จิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตรู้สัมผัสทางกาย" เป็นวิบากจิต (คือจิตที่เป็นผลของกรรม) เห็นสิ่งที่ดี คือ จักขุวิญญาณกุศลวิบาก เป็นผลของกุศลกรรม ฯลฯ
จิต มี ๔ ชาติ คือ กุศล - อกุศล - วิบาก - กิริยา
วิบากจิต จึงไม่ใช่กุศลจิต - ไม่ใช่อกุศลจิต - ไม่ใช่กิริยาจิต
ส่วน "โสมนัส" เป็น เวทนาเจตสิก เกิดร่วมกับ จิต ได้ ทั้ง ๔ ชาติ ครับ
แต่ในชีวิตประจำวัน โสมนัสจะเกิดกับโลภมูลจิต เป็นส่วนมาก ผู้ไม่ได้ฟังพระธรรม จึงเข้าใจผิด คิดว่า โสมนัสที่ประกอบกับโลภะ เป็นสิ่งดี เป็นกุศล
เรื่องของจิตนี้ ช่างละเอียดอ่อนเหลือเกิน ต้องรู้ทุกขณะว่า เป็นกุศลหรืออกุศล ต้อง เพียรต่อไป
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สภาพธรรมที่เป็นวิบากจิต เช่น เห็น รู้กระทบสัมผัส เกิดขึ้นแล้ว จิตอื่นๆ ก็เกิดต่อ จนถึงชวนจิต คือ เป็นกุศล หรือ อกุศล หรือ กิริยาจิต แต่ตามปกติ ปุถุชนย่อมน้อมไปที่จะเป็นอกุศลส่วนใหญ่ โสมนัสเวทนานั้น เกิดกับจิตที่เป็นกุศล อกุศลและกิริยาจิตก็ได้ ดังนั้น ความยินดีที่เป็นโสมนัสเวทนา จึงไม่ใช่ว่าจะเป็นกุศลเสมอไป และที่สำคัญไม่จำเป็นว่าเมื่อเห็นสิ่งที่ดีแล้วจะโสมนัสหรือเป็นกุศล ในทางตรงกันข้ามไม่จำเป็นว่า เห็นสิ่งที่ไม่ดีแล้วจะเป็นโทมนัสเวทนา หรือจะต้องเป็นอกุศลเสมอไปครับ แล้วแต่การสะสมมาของแต่ละบุคคลครับ ดังข้อความในพระไตรปิฎกครับ
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
ว่าด้วยยอดกาม [ปัญจราชสูตร]
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
การเห็นพระพุทธรูป เห็นสิ่งที่ดี เป็นผลของกุศลวิบากทางตา แต่หลังจากเห็นแล้วไม่ใช่วิบาก เป็นกุศลหรืออกุศล ตามการสะสมของแต่ละคน ไม่เหมือนกันค่ะ
บางครั้งได้เข้าไปในเขตวัด หรือได้กราบนมัสการ พระสุปะฏิปันโน เกิดความปิติน้ำตา จะไหล ขนลุก เป็นกุศลประเภทไหนค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
น้ำตาไหล ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นกุศลเสมอไปครับ เป็นอกุศลก็ได้ ดังนั้นผู้นั้นต้อง มีสติ รู้เองว่าจิตเป็นเช่นไร ปิติเจตสิก ก็เกิดกับจิตที่เป็นอกุศลก็ได้ หรือ กุศลก็ได้ เพราะเป็นปกิณณกเจตสิกครับ
ขออนุโมทนา
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
การร้องไห้เป็นกุศลหรืออกุศล
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ