ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สนทนาธรรม ณ
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
วันอาทิตย์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๓
ถอดเทปบันทึกเสียง โดย
คุณสงวน สุจริตกุล
"ภัยในสังสารวัฏฏ์"
"ภัย" คือ สิ่งที่ไม่เที่ยง เพราะมีปัจจัยให้เกิด ก็ต้องเกิดเกิดแล้วก็ต้องดับไป ไม่กลับมาอีกเลยไม่ว่าสิ่งใดจะเกิด หรือไม่เกิด ก็ไม่มีใครยับยั้ง หรือบังคับบัญชาได้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ในแต่ละภพ แต่ละชาติถ้าเป็นชาติที่เกิดในสุคติภูมิ เช่น เกิดเป็นมนุษย์ ก็ต้องมีทั้งเวลาที่สุข และเวลาที่ทุกข์เมื่อได้กระทำ "เหตุ" ที่จะได้รับ "ผล" อย่างไร...วันไหน...ขณะไหนก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น...ตาม "เหตุ" และความจริง ก็ไม่มีใคร เพราะเป็น "ธรรมะ" ซึ่งเป็น จิต เจตสิก และ รูป
"สังสาระ" คือ การเกิดดับ-สืบต่อ-ไม่มีระหว่างคั่นนานแสนนาน จนกระทั่งถึง บัดนี้
"สังสารวัฏฏ์" คือ การเกิดดับๆ สืบต่อ เปลี่ยนแปลงไป ทุกภพทุกชาติ ไม่มีความยั่งยืนจากภพชาตินี้ ไปสู่ภพชาติต่อๆ ไป โดย "กรรมที่ได้กระทำแล้ว" นั่นเองที่เป็น "ปัจจัย" ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้น และเป็นไปตาม "ผลของกรรม" ทั้งในชาตินี้ และ ชาติต่อๆ ไป ในชาตินี้ ในขณะนี้...ก็กำลังเป็น "การให้ผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว" ซึ่งมีทั้งผลของ กุศลกรรม และ ผลของ อกุศลกรรม และยังเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลกรรม และ อกุศลกรรม ต่อไปอีก
แต่ "กรรมที่ประเสริฐสุด" คือ "ความเห็นถูก"
ความเห็นถูก ในสิ่งที่มีจริงๆ ความเห็นถูกใน "ธรรมะ" ซึ่งในสังสารวัฏฏ์ ที่ผ่านมานั้น ได้ฟังมาแล้ว แค่ไหนและ มีความเข้าใจ ในสิ่งที่กำลังฟัง แค่ไหน นี่คือสิ่งที่สำคัญ และ มีประโยชน์ เพื่อที่จะได้ไม่เป็น "ผู้ที่ประมาท"
เมื่อได้ฟังคำว่า "ภัยในสังสารวัฏฏ์" แล้วเข้าใจคำว่า "สังสารวัฏฏ์" และ คำว่า "ภัย" เพิ่มขึ้นหรือเปล่า นี่คือ ความละเอียด เพราะการศึกษาพระธรรม ไม่ใช่เพียงจำคำ หรือ จำเรื่องราว
"สาระ" จากการศึกษาพระธรรมคือ ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก ในสิ่งที่ได้ฟัง
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ