กราบเรียนถามอาจารย์ทั้งสองท่านว่า เคยมีผู้ถามไหมครับว่า เพราะเหตุใดในปฏิจจสมุปบาทจึงไม่มีการกล่าวถึง (สัญญาเจตสิก) หรือท่านอ.สุจินต์เคยกล่าวไว้ในที่ใดบ้างไหมหรือในพระไตรปิฎกมีข้อความเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหมครับ ขอความกรุณาอาจารย์ทั้งสองท่านช่วยให้ความรู้ในส่วนนี้ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ประโยชน์อยู่ที่ความเข้าใจ ว่า ปฏิจจสมุปบาท คือ ธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้น เพราะมีสิ่งนี้จึงมีสิ่งนี้ หมายถึง การวนเวียนในสังสารวัฏฏ์ ปฏิจจสมุปบาท นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงว่า เป็นธรรมอันลึกซึ้งมาก ยากที่จะหยั่งถึง ผู้ที่ทำลายการวนเวียนนี้ได้ต้องบรรลุธรรมถึงความเป็นพระอรหันต์ บุคคลที่เหลือยังไม่พ้นจากวัฏฏะนี้ได้ ถ้าจะกล่าวถึงความเป็นไปของปฏิจจสมุปบาทโดยองค์ธรรม ก็คือ เพราะมีความไม่รู้เป็นปัจจัย จึงมีการทำบุญทำบาป (สังขาร) เมื่อทำบุญ ทำบาปเป็นปัจจัยจึงมีผลของบุญบาป คือ การเกิดขึ้น (ปฏิสนธิวิญญาณ) เมื่อมีการเกิดขึ้นเป็นปัจจัยจึงมีนามและรูป (เจตสิกและรูป) เมื่อมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีอายตนะ (ตา หู จมูก ฯ) เมื่อมีอายตนะเป็นปัจจัยจึงมีการกระทบ (ผัสสะ) เมื่อมีการกระทบเป็นปัจจัยจึงมีเวทนา (ความรู้สึกต่างๆ ) เมื่อมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา (ความติดข้อง) เมื่อมีตัณหาเป็นปัจจัยจึงมีภพ (กรรม) เมื่อมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ (การเกิด) เมื่อมีชาติเป็นปัจจัย จึงมี ความแก่ ความทุกข์ต่างๆ มากมาย
ตามความเป็นจริงแล้ว สัญญาเจตสิกเกิดร่วมกับจิตทุกขณะอยู่แล้ว แม้ไม่กล่าวถึงสัญญาขันธ์ก็มีกับจิตทุกขณะอยู่แล้ว คือ ไม่เว้น ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
ขอเชิญคลิกฟังคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่นี่ครับ
ปฏิจจสมุปบาท หมายความว่าอย่างไร
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในธรรมอย่างสูงครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ