"ที่ใดมีรัก ที่นั้นมีทุกข์" ท่านใดที่เคยมีประสบการณ์ ทุกข์เพราะความรัก ช่วยบอกวิธีทำใจหน่อย ว่าควรทำอย่างไร? เพราะตอนนี้มีน้องที่ทำงาน กำลังประสบปัญหาเรื่องความรักไม่สมหวัง ได้แต่เอาใจช่วยขอให้ทำใจได้ น้องเขายังไม่ได้ศึกษาธรรมะ จึงเป็นห่วงเขา
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
อกหักทำอย่างไรดี
อกหัก กินข้าวไม่ลง
แด่ ... .ทุกท่านที่กำลังแสวงหา ... .ความรัก 2
แด่ ... .ทุกท่านที่กำลังแสวงหา ... .ความรัก
มีรัก ๑ ก็ทุกข์ ๑ ฯลฯ ทุกข์เกิดจากการพลัดพราก การไม่สมหวัง แต่ความทุกข์นั้นก็ไม่เที่ยง กาลเวลาที่ผ่านไป จะช่วยให้คลายทุกข์ได้เอง แต่ช่วงแรก ก็อย่าอยู่ว่างๆ พยายามหาอะไรที่เป็นประโยชน์ทำ โดยเฉพาะการฟังธรรม การบำเพ็ญประโยชน์ และการเจริญกุศลทุกอย่าง เพราะขณะที่กุศลจิตเกิด ขณะนั้นจิตเป็นกุศล ไม่เศร้าหมองค่ะ
ถ้าคุณ oom มีโอกาสแสดงธรรม ก็สามารถแสดงธรรม ให้เขารับฟังเหตุผล ในพระธรรมได้ครับ คนที่ไม่เคยรับฟังธรรมโดยแนวทางความเห็นถูก เวลาที่คิดก็ยังมีตัวเขา ที่คิดเป็นเรื่องราวประจำ บางครั้งรู้ว่า จิตของตนเป็นกุศลได้ แต่ก็ยังเป็นกุศลของเขา แต่ส่วนใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นอกุศลมากมายกว่าทีเดียว เพราะไม่ได้อบรมเจริญปัญญา สติไม่เกิดระลึกถึงสภาพนามธรรม ที่คิดว่า "ไม่ใช่เราคิด ไม่ใช่ตัวตนที่คิด"ครับ
มีสิ่งใดก็ย่อมทุกข์เพราะสิ่งนั้น
มีมาก / ติดมาก ก็ทุกข์มาก
มีน้อย / ติดน้อย ก็ทุกข์น้อย
ไม่มี / ไม่ติด ก็ไม่ทุกข์
มีน้อย ก็ยังติดมากครับ และก็รู้สึกทุกข์มากเหมือนกันครับ
หนักใจตรงที่ ไม่ได้ทราบจากปากของน้องเอง มีคนใกล้ชิดมาเล่าให้ฟัง ซึ่งตอนนี้ น้องที่มีปัญหาหัวใจ ก็ไม่อยากให้ใครไปยุ่งด้วย เพราะมีความรู้สึกเสียหน้า และอาย ขังตัวอยู่คนเดียว ทำเอาเป็นห่วง ก็ได้แต่บอกน้องที่เป็นคนสนิทกับเขาว่า พยายามปลอบใจเขา และอยู่เป็นเพื่อน อย่าปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว อย่าถึงขนาดแสดงธรรม เลยค่ะ ยังไม่มีความสามารถที่จะสอนคนอื่นได้ เพราะยังสอนตัวเองไม่ค่อยได้เหมือนกัน ได้เป็นบางครั้ง เพียงแต่ว่าได้ฟังธรรม อจ.สุจินต์ บ่อยๆ และชอบอ่านหนังสือธรรมะ จึงทำให้เข้าใจสภาพธรรม ตามความเป็นจริงของชีวิต และเห็นทุกข์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ทุกประการ ตราบใดที่เรายังมีความยึดมั่นถือมั่นในโลกธรรม ๘ คนจะพบกับความทุกข์ไม่สิ้นสุด ทุกวันนี้ดิฉันยอมรับว่า ดิฉันจะมีความทุกข์น้อยมาก เพราะได้ธรรมะ เป็นธรรมโอสถ รักษาใจตลอด ดิฉันจึงอยากให้ทุกคน ได้ศึกษาธรรมมะจัง ชีวิตจะได้ทุกข์น้อยลง พระพุทธเจ้า ได้บอกแนวทางแก้ไขไว้ทุกอย่าง แต่คนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยสนใจศึกษา และปฏิบัติกัน
วิธีคิดที่ได้ผลดีก็คืออย่าคิดว่าเค้าเป็นของๆ เรา เค้าจะรักหรือไม่รักก็คือ ความรักของเค้า เราบังคับใครไม่ได้ ใจเรายังบังคับยากเลยมันอยูที่ตัวเราเอง
ตามความเป็นจริงแล้วเราก็ไม่มี และอะไรที่เป็นของเราก็ไม่มี มีแต่ความวิปลาสของจิตที่แต่ละท่านได้สะสมมา จึงยึดถือสภาพธรรมที่ปรากฎว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ว่าสวยว่างามว่าเที่ยง และว่าสุข ชีวิตในวันหนึ่งๆ จึงอยู่กับการปรุงแต่งของความคิดที่วิปลาส ถ้าอยากรักษาโรคนี้ให้หาย ก็ต้องศึกษาพระธรรมและประพฤติ ปฏิบัติตามนะคะ มียาขนานนี้ขนานเดียวเท่านั้น ไม่มีขนานอื่น ถ้าเป็นมาก ก็อาจจะต้องใช้เวลารักษานานหน่อย แต่หายแน่ค่ะ ... รับรอง
ค่ะ ดิฉันเห็นด้วยกับทุกข้อคิดเห็นค่ะ แต่ถ้าคนที่ไม่เข้าใจธรรมะ มันคงยากพอดู เหมือนน้องคนนี้ ที่ต้องทุกข์ทรมานเพราะความรัก คงช่วยได้ แค่แผ่เมตตา ให้เขา ขอให้เขาได้มีสติ คิดไตร่ตรองด้วยเหตุ ด้วยผลตามความเป็นจริง และยอมรับได้ ก็คงจะทุกข์น้อยลง
มีใครบ้าง ที่ไม่เคยทุกข์เพราะรัก เราคาดหวังจากคนอื่นมากเกินไป เราคิดและทำให้ คนรัก ราวกับทำให้ตัวเอง และคิดว่าเขาหรือเธอต้องรับรู้ แต่เอาเข้าจริงๆ เป็นสิ่งที่ เราเข้าใจไปเอง ไม่งั้นจะมีคำว่า ความรักทำให้คนตาบอดหรือ เวลาเท่านั้น ที่จะ คลายความเศร้าใจได้ คนอื่นพูดไม่มีประโยชน์หรอก คนทุกข์เท่านั้น ต้องหาทางออกเอง ก็ขอให้คนที่กำลังทุกข์ได้พบแสงสว่างจากพระธรรม ซึ่งเป็นหนทางเดียวเท่านั้น ที่จะเข้าใจชีวิต วันที่ตัวเองทุกข์ ก็จมอยู่อย่างนั้น แต่วันหนึ่งก็ได้ยินเสียงก้องกังวานไพเราะ จากท่านอาจารย์สุจินต์ บรรยายธรรม ซึ่งถือว่าเป็นโชคและวาสนาของตัวเองอย่างมากเลย คนเราต่างก็มีคนละหนึ่งชีวิตเท่านั้น จะไป อะไรกันมากมายกับกิเลสคน
ใช่ค่ะ คนที่ทุกข์เท่านั้น ที่ต้องแก้ปัญหาของตนเอง คนอื่นคงช่วยไม่ได้ คงได้แต่ปลอบใจเท่านั้นเอง คนที่ทุกข์ ต้องมองเห็นด้วยปัญญาของตัวเอง ได้แต่เป็นห่วง กลัวเขาจะทำอะไรขาดสติ เหมือนอย่างที่มีข่าว ผิดหวังในความรัก แล้วฆ่ากันตาย ซึ่งเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ กลัวจริงๆ
ธรรมเป็นธรรมดา เกิดขึ้นและก็ดับไป พบกันก็ต้องจากกัน จากเป็นหรือจากตาย ดังนั้นเมื่อรู้เช่นนี้ ก็ทำเพื่อคนอื่นดีกว่าที่จะทำเพื่อตัวเอง ด้วยเมตตาครับ
ขออนุโมทนา
ทุกข์เพราะรัก อ่านแล้วสะท้อนใจ เพราะตอนนี้คนใกล้ตัว คือคุณแม่ก็กำลังประสบกับความทุกข์ เพราะความรักลูกสาว หรือก็คือน้องสาวเราเอง ที่กำลังมืดบอด เพราะความรักและหลง ทำให้ทำอะไรออกนอกลู่นอกทาง และขาดความยั้งคิดแม้ว่าเราจะตักเตือน ห้ามปราม รวมถึงชี้ให้เห็นโทษ ที่เป็นเหตุปัจจัยทำให้แม่ต้องเป็นทุกข์แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย สุดท้ายเราก็ได้แต่ปลอบแม่ และพยายามให้แม่ได้ศึกษาธรรมะ ถึงจะเข้าใจว่า ไม่มีใครสามารถทำให้ใครเป็นทุกข์ได้ เพราะเป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย แต่บางครั้งก็ยังเคืองน้องอยู่ เนื่องจากแอบคิดว่า น้องทำให้แม่ทุกข์และเสียใจ ทุกข์ครั้งนี้คงเป็นแบบฝึกหัดครั้งสำคัญ ที่จะทำให้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง ได้มากขึ้นตามลำดับ สัตว์โลกหนอ สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรมจริงๆ
ดิฉันเข้าใจ และเห็นใจมากเลยค่ะ การที่เราเห็นคนที่เรารัก เป็นทุกข์ เราอยากช่วยแต่ก็ช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องความทุกข์ ที่เกิดจากใจ ถ้าทุกข์เพราะไม่มีเงินทอง เรายังพอช่วยได้ แต่ถ้าเป็นความทุกข์ที่เกิดจากความรัก ค่อนข้างยากสำหรับผู้ที่ไม่ศึกษาธรรมะ กรณีของคุณคงต้องปล่อยไปตามกรรม น้ำเชี่ยว อย่าเอาเรือไม่ขวาง ในสมัยพระพุทธกาล ก็ยังมีตัวอย่างที่หลงเมียลืมแม่ ทุบตีแม่ เพราะความรักความหลง คุณทำดีแล้ว ที่คอยช่วยปลอบใจคุณแม่ ส่วนน้องสาวคุณ เขาคงต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
เห็นจะจริงอย่างเช่นที่คุณ Oom ว่าแหละค่ะ น้ำกำลังเชี่ยว เพราะเมื่อคืนเรากับแม่ลองพูดคุยกัยน้องอีกครั้ง (สำหรับเรา คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแหละ) หลังจากที่เขาออกจากบ้านไป ๓ อาทิตย์ ผลก็ออกมาเหมือนเดิม ฟังจากสิ่งที่น้องพูดออกมาก็ประจักษ์ได้ถึงความเชียวกราดของโมหะ แต่ที่พังลงคงไม่ใช่เรือ แต่เป็นใจของคนเป็นแม่ต่างหาก ได้แต่บอกแม่และบอกตัวเองว่า เป็นกรรมของเขา และก็คงเป็นกรรมของเราและแม่ด้วยทั้ง ๒ คน ที่ทำให้เราทั้ง ๓ ต้องมาพบเจอ ผูกพันและเป็นทุกข์กับเรื่องราวแบบนี้ สำหรับเราก็ตอนนี้คงทำได้แค่เจริญเมตตาให้แก่เขา เพื่อว่าในวันที่เขาต้องการความช่วยเหลือเรา จะสามารถหยิบยื่นความเข้าใจ และความช่วยเหลือให้แก่เขาได้ โดยปราศจากความผูกโกรธ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ