เพราะสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นและดับไป แต่นิพพานดับไปแล้วไม่เกิดอีก การที่ไม่เกิดอีกทำไมจึงกล่าวว่านิพพานเป็นอนัตตา
เพราะไม่มีสิ่งใดเป็นอัตตา เพราะสิ่งทั้งปวงเป็นอนัตตา เมื่อจะค้นหาอัตตาในที่ใดๆ ย่อมหาไม่พบ ขอเชิญคลิกอ่านที่ ..
อนัตตา
ว่าด้วยเรื่อง อนัตตา
ยังไม่ตรงคำถามเลยครับ ในเมื่อนิยามว่าสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นและดับไปเป็นอนิจจัง แต่นิพพานไม่เกิดแล้ว นิพพานก็น่าจะเป็นอัตตาเพราะเป็นนิรันดร์แล้ว
นิพพาน ไม่เกิดดับเพราะเที่ยง ไม่เป็นทุกข์เพราะเป็นบรมสุข คือ สุขอย่างยิ่ง ไม่เป็นอัตตาเพราะเป็นอนัตตา
ถ้านิพพานเป็นอัตตา อยู่ในบังคับบัญชาของผู้หนึ่งผู้ใด คือมีตัวตนของผู้นั้นที่จะไปถึงพระนิพพานได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ทุกคนจะต้องดับกิเลสได้ตามที่ใจต้องการ เพราะพระนิพพานเท่านั้นที่ดับกิเลสได้อย่างสิ้นเชิง แต่หากเราลองพิจารณาชีวิตประจำวันในทุกวันนี้ ที่เรายังมีกิเลสอยู่ ทำไมเราไม่บังคับให้นิพพานดับกิเลสของเราในขณะนี้ หรือว่าทำไมเราจึงไม่รีบดับกิเลสเสียในชาติก่อนๆ จะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก แก่อีก เจ็บอีก ตายอีก ในชาตินี้และชาติต่อๆ ไป? เพราะว่า นิพพาน ไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตาคือ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร เป็นธรรมะที่ยากจะถึง ต้องการอาศัยการสะสมบารมีและการอบรมเจริญสติปัฏฐานเป็นระยะเวลายาวนาน เช่น พระอสีติมหาสาวกก็แสนกัปป์ พระอัครมหาสาวกก็หนึ่งอสงขัยแสนกัปป์ พระปัจเจกพุทธเจ้าก็สองอสงขัยแสนกัปป์ เป็นต้น
การที่จะไม่เกิดอีกคือ เมื่อจุติจิตของพระอรหันต์เกิดขึ้น เพราะอรหัตตมรรคจิตที่ได้เกิดแล้วในชาตินั้น มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ กระทำกิจปหานกิเลสจนหมดสิ้น ถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อไม่มีกิเลสจึงไม่เกิดอีก ไม่เกี่ยวกับการเกิดดับของพระนิพพาน เพราะพระนิพพานไม่เกิดดับครับ
ขอบพระคุณ ajarnkruo มากครับ คำตอบทำให้ผมกระจ่างและเข้าใจขึ้นมาก
ขออนุโมทนาค่ะ
นิพพานไม่เกิดไม่ดับ แต่นิพพานเที่ยงเป็นสุข สุขอื่นยิ่งกว่านิพพานไม่มีค่ะ
ในพระสูตรท่านเปรียบ นิพพานไว้เหมือนกับไฟที่ดับ (เพราะสิ้นเชื้อ) ไฟที่ดับ ดับแล้ว...ไปไหน? ไม่มีสภาวะ จึงเป็นอนัตตา
กล่าวโดยลักษณะ ๓ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตานิพพาน ไม่เป็นอนิจจัง ทุกขังนิพพาน เป็น อนัตตาขอสนทนาธรรม