[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 233
เถราปทาน
วีชนีวรรคที่ ๖
ปทุมเถราปทานที่ ๙ (๕๙)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกปทุมพร้อมด้วยธง
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 233
ปทุมเถราปทานที่ ๙ (๕๙)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายดอกปทุมพร้อมด้วยธง
[๖๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าปทุมุตตระ กำลังทรง ประกาศสัจจะ ๔ ทรงยังธรรมอันประเสริฐให้เป็นไป ทรง ยังสายฝนอมฤตให้ตก ดับความเร่าร้อนมหาชนอยู่.
เรายืนถือดอกปทุมพร้อมด้วยธงอยู่ไม่ไกล ๒๕๐ ชั่วธนู มี ความโสมนัส ได้โยนดอกปทุมพร้อมด้วยธงขึ้นไปบนอากาศ เพื่อบูชาพระมุนีพระนามว่าปทุมุตตระ
และเมื่อดอกปทุมกำลังมา ความอัศจรรย์ก็เกิดมีในขณะ นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ประเสริฐกว่าบรรดาคน ทรงทราบ ความดำริของเรา ทรงรับไว้.
พระศาสดาทรงรับดอกปทุมอันอุดมด้วยพระหัตถ์อันประเสริฐแล้ว ประทับยืนในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ได้ตรัสพระคาถา เหล่านี้ว่า ผู้ใดโยนดอกปทุมนี้มาในพระสัพพัญญูผู้นายกอุดม เราจักพยากรณ์ผู้นั้น ท่านทั้งหลายจงฟังเรากล่าว.
ผู้นั้นจักเป็นจอมเทวดาเสวยเทวรัชสมบัติตลอด ๓๐ กัป จักได้เป็นพระราชาในแผ่นดินครอบครองพสุธาอยู่ ๗๐๐ กัป จักถือเอาอัตภาพในภพนั้นแล้ว จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ในกาลนั้น สายฝนดอกปทุมจักตกจากอากาศมากมาย.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 234
ในแสนกัป พระศาสดามีพระนามว่าโคดม ซึ่งสมภพ ในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก.
ผู้นั้นจักเป็นโอรส ผู้เป็นทายาทในธรรมของพระศาสดา พระองค์นั้น อันธรรมนิรมิต กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว จักไม่มีอาสวะ และนิพพาน เราตลอดจากครรภ์แล้ว มีสติ- สัมปชัญญะ มีอายุ ๕ ปีโดยกำเนิด ได้บรรลุพระอรหัต.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระปทุมเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วยประการ ฉะนี้แล.
จบปทุมเถราปทาน
๕๙. อรรถกถาปทุมเถราปทาน
อปทานของท่านพระปทุมเถระ มีคำเริ่มต้นว่า จตุสจฺจํ ปกาเสนฺโต ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญบุญสมภารไว้ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ เมื่อพระปทุมุตตรมุนี กระทำความโชติช่วงแห่งพระสัทธรรมให้รุ่งเรืองอยู่ ท่านบังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง ดำรงการครองเรือน ปรากฏว่า ท่านเพียบพร้อมด้วยโภคทรัพย์. ท่านเลื่อมใสในพระศาสดา ฟังธรรม อยู่กับมหาชน ได้ยืนถือกำดอกปทุมพร้อมด้วยธง. ท่านได้ขว้างกำดอก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 235
ปทุมนั้นพร้อมด้วยธงขึ้นสู่อากาศ เห็นความอัศจรรย์นั้น จึงเกิดโสมนัส อย่างยวดยิ่ง. ทำบำเพ็ญกุศลจนตลอดชีวิต ในที่สุดแห่งชีวิต บังเกิด ในสวรรค์ ได้ปรากฏและอันเขาบูชา ในฉกามาวจรสวรรค์ดุจธง เสวย ทิพยสมบัติ และเสวยจักรพรรดิสมบัติในมนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ ท่านบังเกิดในเรือนมีตระกูลสมบูรณ์ด้วยสมบัติ เพียบพร้อมด้วย ศรัทธา เจริญวัยแล้วเกิดศรัทธา เพียงอายุ ๕ ขวบเท่านั้นได้บรรพชา แล้ว ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ ท่านปรากฏโดยนามที่ท่านได้บำเพ็ญ บุญไว้ว่า ปทุมเถระ ดังนี้.
ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า จตุสจฺจํ ปกาเสนฺโต ดังนี้.
บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า สจฺจํ ความว่า ที่ชื่อว่า สัจจะ เพราะ แท้ ไม่ผิด ไม่คลาดเคลื่อน. ที่ชื่อว่า จตุสัจจะ เพราะท่านรวบรวม สัจจะ ๔ คือ ทุกขสัจจะ สมุทยสัจจะ นิโรธสัจจะ และมัคคสัจจะ เมื่อ ประกาศคือเมื่อกระทำสัจจะ ๔ นั้นให้ปรากฏในโลก. บทว่า อมตํ วุฏึ ความว่า เมื่อยังสายน้ำฝนคืออมตมหานิพพานให้ตกอยู่คือหลั่งไหล ยัง โลกนี้พร้อมด้วยเทวโลกให้ชุ่มอยู่ คือยังความเร่าร้อนคือกิเลสทั้งปวง ให้ดับ ชื่อว่าย่อมยังฝน คือพระธรรมให้ตก.
บทว่า สธชํ ปทุมํ คยฺห ความว่า ถือดอกปทุม คือกำดอกปทุม รวมกับธง. บทว่า อฑฺฒโกเส ิโต อหํ ความว่า ได้ยกดอกปทุมและ ธงทั้งสองขึ้นยืนอยู่แล้ว. คำที่เหลือในทีทั้งปวงตื้นทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาปทุมเถราปทาน