มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 22
กถาว่าด้วยศิลปะ
[๑๒๘] ความเป็นผู้ฉลาดในหัตถกรรมมี ๒ อย่าง ด้วยสามารถแห่งศิลปะของบรรพชิตและคฤหัสถ์ ชื่อว่าศิลปะ. [อนาคาริยศิลปะ] ในศิลปะ ๒ อย่างนั้น การตกแต่งสมณบริขาร มีการกะและเย็บจีวรเป็นต้น ที่พระผู้มีพระภาคทรงพรรณนาไว้ในสัตตมสูตร ๑ ทุติยวรรค แห่งทสกนิบาตอังคุตตรนิกาย อย่างนี้ว่า "ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในศาสนานี้ เป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้านในการงานอะไรที่จะพึงช่วยกันทำ ทั้งสูง ทั้งต่ำ ของเพื่อนพรหมจารีด้วยกันประกอบพร้อมด้วยปัญญาเครื่องสอบสวน อันเป็นอุบายในการงานที่จะพึงช่วยกันทำนั้นอาจทำ อาจจัดได้; ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้ขยัน ฯลฯ อาจจัดได้ แม้ใด; ธรรมแม้นี้ ชื่อว่านาถกรณธรรม" ดังนี้ ชื่อว่า ศิลปะของบรรพชิต
มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 29
อาคาริยศิลปะ
[๑๓๖] ชื่อว่าศิลปะของคฤหัสถ์ มีมากชนิด. ในศิลปะเหล่านั้นกิจการใด เว้นจากการเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อื่น เว้นจากอกุศลกรรม มีการงานของช่างแก้วและช่างทองเป็นต้น กิจการนั้น จัดเป็นมงคล เพราะนำมาซึ่งประโยชน์ในโลกนี้
มังคลัตถทีปนีแปล เล่ม ๒ - หน้าที่ 31
[๑๓๗] แต่เพราะท่านกล่าวไว้โดยไม่แปลกกันว่า "ความเป็นผู้ฉลาดในหัตถกรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ชื่อศิลปะ" ดังนี้ ศิลปะแห่งช่างสานเป็นอาทิก็ดี ศิลปะดีดกรวดก็ดี อันมีมาในวิภังค์แห่งโอมสวาทสิกขาบท จึงนับเข้าด้วย. ช่างสานชื่อว่านฬการ ในคำว่า นฬการาทิสิปฺปญฺเจว นั้น. แม้ศิลปะของช่างสานนั้น ก็เป็นมงคล เพราะนำมาซึ่งประโยชน์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น