[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 608
เถราปทาน
ตมาลปุปผิยวรรคที่ ๒๐
อโสกปูชกเถราปทาหที่ ๔ (๑๙๔)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกอโศก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 608
อโสกปูชกเถราปทาหที่ ๔ (๑๙๔)
ว่าด้วยผลแห่งการบูชาด้วยดอกอโศก
[๑๙๖] ในกาลนั้น มีพระราชอุทยานอยู่ในพระนครติปุระอัน น่ารื่นรมย์ เราเป็นคนรักษาพระราชอุทยานอยู่ในนครนั้น เป็น คนรับใช้ของพระราชา.
พระสมัยภูมีพระนามว่าปทุม ผู้ทรงมีพระปัญญาฉลาด หลักแหลม พระฉายไม่ละพระองค์ผู้เป็นมุนี ซึ่งประทับนั่ง บนดอกบัวขาว.
เราเห็นอโศกมีดอกบานเป็นกลุ่มๆ (พวงช่อ) น่าดูนัก จึง (หัก) บูชาแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมผู้อุดม.
ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้บูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ ใด ด้วยการบูชานั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง พุทธบูชา.
ในกัปที่ ๗๐ แต่กัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑๖ ครั้ง พระนามว่าอรณัญชหะสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ มีพละมาก.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราได้ทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระอโสกปูชกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบอโสกปูชกเถราปทาน
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 609
๑๙๔. อรรถกถาอโสกปูชกเถราปทาน
พึงทราบอปทานของท่านพระเถระรูปที่ ๔ ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า รญฺโ ปฏฺจโร อหํ ความว่า เราได้เป็นคนรับใช้ คือเป็นคนทำงานของพระราชา (ข้าราชการ). บทว่า ชลชุตฺตมนามิโน ความว่า ดอกไม้ที่เกิดในชลธารคือในน้ำ ชื่อว่า ชลชะ, ดอกไม้ ชนิดนั้นทำไมถึงชื่อว่าดอกปทุม เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนาม ว่า ปทุมุตตระ มีพระนามเสมอด้วยดอกปทุม. อีกอย่างหนึ่ง มี อธิบายว่า เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้ามีพระนามว่า ปทุมะ ซึ่งเป็น ดอกไม้สูงสุด.
จบอรรถกถาอโสกปูชกเถราปทาน