ทักษิณาเป็นปาฏิปุคคลิก มี ๑๔ อย่าง
โดย สารธรรม  23 ต.ค. 2565
หัวข้อหมายเลข 44867

ดูกร อานนท์ ก็ทักษิณาเป็นปาฏิปุคคลิก มี ๑๔ อย่าง (ปาฏิปุคคลิก คือ การให้โดยเจาะจง) ก็ทักษิณาเป็นปาฏิปุคคลิก มี ๑๔ อย่าง คือ

ให้ทานในตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๑

ให้ทานในพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธะ นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๒

ให้ทานในสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๓

ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตตผลให้แจ้ง นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๔

ให้ทานแก่พระอนาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๕

ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๖

ให้ทานแก่พระสกทาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๗

ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำสกทาคามิผลให้แจ้ง นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๘

ให้ทานแก่พระโสดาบัน นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๙

ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสตาปฏิผลให้แจ้ง นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๑๐

ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม นี้เป็นทักษิณาปาฏิ-ปุคคลิก ประการที่ ๑๑

ให้ทานในปุถุชนผู้มีศีล นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๑๒

ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๑๓

ให้ทานในสัตว์เดรัจฉาน นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๑๔

สำหรับการที่จะถวายทานแก่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะได้ถวายโดยตรงต่อพระผู้มีพระภาคซึ่งเป็นปาฏิบุคคลิกประการที่ ๑ ในปัจจุบันชาตินี้ ไม่มี สำหรับการที่ท่านจะถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นทักษิณาปาฏิบุคคลิกประการที่ ๒ ในปัจจุบันชาตินี้พอจะมีไหม เพราะเหตุว่ายังเป็นสมัยของพระอรหันต-สัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ ต่อเมื่อใดที่พระธรรมวินัยอันตรธานแล้ว และได้มีผู้ที่บำเพ็ญบารมีมาแล้วในอดีต สามารถรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ด้วยตนเองเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ซึ่งสมัยของพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น ไม่ใช่ว่าจะมีได้เพียงพระองค์เดียวอย่างสมัยของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้านั้นมีหลายพระองค์ แต่ถ้าท่านผู้ใดได้เกิดในสมัยนั้น และเจาะจงถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า นั่นก็เป็นปาฏิบุคคลิกทานประการที่ ๒

ประการที่ ๓ คือ ให้ทานในสาวกของพระตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ นี้เป็นทักษิณาทานปาฏิปุคคลิก ประการที่ ๓ ในสมัยนี้ ไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และไม่ใช่สมัยของพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่เป็นสมัยของพระสาวกของพระพุทธเจ้า ซึ่งประการที่ ๓ เป็นการเจาะจงถวายทานแก่พระอรหันต์

ประการที่ ๔ ให้ทานในผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตตผลให้แจ้ง

ประการต่อไป คือ ให้ทานแก่พระอนาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิบุคคลิกทานประการที่ ๕

ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง นี้เป็นทักษิณาปาฏิบุคคลิกทานประการที่ ๖

ต่อไปเป็นเรื่องของพระสกทาคามี พระโสดาบัน จนกระทั่งถึงให้ทานในบุคคลผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสตาปัตติผลให้แจ้ง

สำหรับการให้ทานโดยเจาะจงนั้น ไม่จำเพาะแต่เฉพาะผู้ที่เจริญธรรมเพื่อการรู้แจ้งเป็นพระอริยบุคคล แต่แม้การให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม ได้แก่พวกสมณพราหมณ์ หรือบรรพชิตในศาสนาอื่น ก็เป็นทักษิณาปาฏิ-บุคคลิกประการที่ ๑๑

นอกจากนั้น มีการให้ทานในปุถุชนผู้มีศีล หรือให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล ก็เป็นการให้เจาะจง ให้ทานในสัตว์เดรัจฉาน นี้เป็นทักษิณาปาฏิบุคคลิกทานประการที่ ๑๔

พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปว่า

ดูกร อานนท์ ใน ๑๔ ประการนั้น บุคคลให้ทานในสัตว์เดรัจฉาน พึงหวังผลทักษิณาได้ ๑๐๐ เท่า ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล พึงหวังผลทักษิณาได้ ๑,๐๐๐ เท่า ให้ทานในปุถุชนผู้มีศีล พึงหวังผลทักษิณาได้ ๑๐๐,๐๐๐ เท่า ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม พึงหวังผลทักษิณาได้แสนโกฏิเท่า ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสตาปัตติผลให้แจ้ง พึงหวังผลทักษิณาจนนับไม่ได้ จนประมาณไม่ได้ จะป่วยกล่าวไปใยในพระโสดาบัน ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำสกทาคามิผลให้แจ้ง ในพระสกทาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง ในพระอนาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอรหัตตผลให้แจ้ง ในสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ ในพระปัจเจกสัมพุทธะ และในตถาคต พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 182