การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์หรือของมึนเมา เป็นการล่วงศีล แล้วผู้ขายหรือผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจประเภทนี้ แต่ตัวเองไม่ดื่ม ก็คงไม่เป็นการล่วงศีลข้อนี้ใช่ไหมครับ
ขอเรียนถามว่า อาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ เช่น ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย หรือพรีเซนเตอร์ที่โฆษณาเครื่องดื่มประเภทนี้ เป็นต้น จัดเป็นสัมมาอาชีพหรือไม่ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การดื่มของมึนเมา มี สุรา เป็นต้น ผู้ดื่มเป็นผู้ล่วงศีลโดยตรง เพราะเป็นผู้มีเจตนาดื่มของมึนเมา และ ก็สำเร็จด้วยการดื่มนั้น แต่ ผู้ที่ผลิต หรือ สนับสนุน มี พรีเซนเตอร์ เป็นต้น ไม่ใช่ผู้ดื่ม จึงไม่ล่วงศีลข้อ 5 คือ การดื่มสุราเมรัย
แต่ ผู้ที่ประกอบอาชีพขายสุรา ของมึนเมา หรือ มีเจตนาสนับสนุนในการขายสุรา ก็เป็นอาชีพ ที่ไม่ดี เป็น มิจฉาอาชีวะ และ เป็นการกระทำที่ไม่สมควรในการสนับสนุน เป็นพรีเซนเตอร์ในของมึนเมานั้น เพราะ ของมึนเมา ไม่ว่าในสมัยอดีต ปัจจุบันและอนาคต ก็เป็นของที่ไม่สมควรจะดื่ม เพราะทำให้ล่วงศีลข้ออื่นๆ ได้ เพราะการดื่มสุราเมรัย ครับ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ได้แสดงอาชีพที่ไม่ควรประกอบ ดังนี้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ ๓๗๖
๗. วณิชชสูตร
(ว่าด้วยการค้าขายที่อุบาสกไม่ควรประกอบ)
[๑๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ ประการนี้ อันอุบาสกไม่พึงกระทำ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
การค้าขายศัสตรา ๑
การค้าขายสัตว์ ๑
การค้าขายเนื้อสัตว์ ๑
การค้าขายน้ำเมา ๑
การค้าขายยาพิษ ๑
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ ประการนี้แล อันอุบาสกไม่พึงกระทำ.
การค้าขาย สุรา น้ำเมา ก็เป็นอาชีพที่ไม่ควรประกอบ ซึ่ง อาชีพที่คฤหัสถ์ไม่ควรประกอบ นั้น เป็นอาชีพที่เป็นไปเพื่อความเดือดร้อนต่อผู้อื่น ต่อสัตว์อื่น ก็ไม่ควรที่จะประกอบ ไม่ควรที่จะทำ
ดังนั้น ผู้ผลิตสุราและผู้ที่มีเจตนาสนับสนุน เป็นตัวอย่างให้กับสิ่งที่ทำให้เกิดความมึนเมาและทำให้เกิดการล่วงศีล เป็นสิ่งที่สมควรหรือไม่ สัจจะ ความจริงย่อมไม่เปลี่ยนแปลงไปตามความคิดของแต่ละคน แต่ สัจจะ ความดี และ ไม่ดี เป็นสิ่งที่ไม่เปลี่ยนลักษณะไปตามสังคม หรือ ความคิดของใคร ครับ
การดื่มสุรา ผิดศีลข้อที่ ๕ เป็นที่ตั้งแห่งความประมาท เมื่อเสพมากขึ้นถึงขั้นมึนเมาก็อาจจะ กระทำอกุศลกรรมประการต่างๆ ได้มากทีเดียว (ซึ่งในขณะที่ไม่ดื่มสุรา ก็จะไม่กระทำอย่างนั้น) ไม่นำมาซึ่งประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อกล่าวถึงโทษของสุราแล้ว มีมากทีเดียว เป็นเหตุให้เสียทรัพย์ เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดโรค ทำให้เกิดทุกข์ทางกายในลักษณะต่างๆ บั่นทอนกำลังปัญญา ทำให้เป็นผู้ไม่รู้จักละอาย เป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ที่หวังความเจริญในชีวิต ไม่ควรดื่มสุรา การงดเว้นจากการดื่มสรุา เป็นการให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่งทุกอย่าง คือ ให้ความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่น เป็นต้น ครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ....
กุมภชาดก [ว่าด้วยโทษของสุรา]
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
โดยปกติชีวิตของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ อกุศลเกิดขึ้นเป็นไปมากอยู่แล้ว มัวเมาด้วยอกุศลธรรมตามการสะสมของแต่ละบุคคล ยิ่งมีส่วนอื่นที่เกื้อหนุนให้เป็นอกุศลมากขึ้น เช่น การดื่มสุรา ตลอดจนถึงการโฆษณาเกี่ยวกับสุรา เป็นต้น ซึ่งเป็นการเติมเชื้อให้อกุศลเกิดมากขึ้น ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ อกุศลเกิดแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ดีแล้ว ไม่นำมาซึ่งคุณประโยชน์ใดๆ เลยแม้แต่น้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่มีคำสอนแม้แต่บทเดียวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงที่จะเกื้อกูลหรือส่งเสริมให้เกิดอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขณะที่ไม่ได้เป็นไปในทาน ศีล ภาวนา ขณะนั้นก็เป็นอกุศล อกุศลทุกประเภทถ้าเกิดกับจิตขณะใดขณะนั้นก็เป็นบาปค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
เห็นสัตว์อื่นบุคคลอื่นทำความดี เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยกำลังกาย สติปัญญา วัตถุ หรืออย่างน้อยกล่าวสรรเสริญ หรือยินดีด้วย คำที่เราคุ้นเคยบ้างก็ว่า "อนุโมทนาบุญ" บ้างก็ว่า"สาธุ" อย่างนี้กล่าวได้ว่า มีส่วนร่วมในบุญ
ในทางตรงกันข้ามหากมีส่วนสนับสนุนให้มีการทำอกุศล ชื่นชมยกย่อง แสดงความยินดีในอกุศลกรรม กล่าวได้ว่า มีส่วนร่วมในบาป หรือ"อนุโมทนาบาป"
ยินดีในบุญครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ