เรียนถามเกี่ยวกับกัมมชกลาปในมนุษย์ครับว่ามีจำนวน ๗ กลาปเท่าเทวดาหรือไม่ครับ
ขอบคุณครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กัมมชกลาป แปลว่า กลุ่มของรูปที่เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน หมายความว่า รูปที่เกิดในขณะนั้นทุกรูปในกลุ่มนั้น เกิดเพราะกรรมทั้งหมด กลุ่มของรูปที่เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน ประมวลแล้ว มีทั้งหมด ๙ กลุ่ม
๑. จักขุทสกกลาป คือ กลุ่มของจักขุปสาทรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูปคือ อวินิพโภครูป ๘ จักขุปสาทรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๒. โสตทสกกลาป คือ กลุ่มของโสตปสาทรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ โสตปสาทรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๓. ฆานทสกกลาป คือ กลุ่มของฆานปสาทรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ ฆานปสาทรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๔. ชิวหาทสกกลาป คือ กลุ่มของชิวหาปสาทรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ ชิวหาปสาทรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๕. กายทสกกลาป คือ กลุ่มของกายปสาทรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ กายปสาทรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๖. อิตถีภาวทสกกลาป คือ กลุ่มของอิตถีภาวรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ อิตถีภาวรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๗. ปุริสภาวทสกกลาป คือ กลุ่มของปุริสภาวรูป ซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ ปุริสภาวรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๘. หทยทสกลาป คือ กลุ่มของหทยรูปซึ่งมีรูป รวม ๑๐ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ หทยรูป ๑ ชีวิตินทริยรูป ๑
๙. ชีวิตนวกกลาป คือ กลุ่มของชีวิตรูปซึ่งมีรูป รวม ๙ รูป คือ อวินิพโภครูป ๘ ชีวิตินทริยรูป ๑
จากประเด็นคำถามเกี่ยวกับกัมมชกลาปของมนุษย์ และ เทวดา
สำหรับมนุษย์ (ผู้หญิง กับ ผู้ชาย) ที่เกิดในครรภ์ แต่ละคนที่ไม่พิการ ไม่บ้าใบ้ บอดหนวก ก็มีรูปที่เป็นกัมมชกลาปะ ๗ กลุ่ม แต่ไม่พร้อมกันทันทีเหมือนกับผู้ที่เกิดเป็นเทวดาซึ่งเป็นโอปปาติกกำเนิด โดยมีข้อความจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ดังนี้
กัมมชรูปที่เกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิตในภูมิมนุษย์ซึ่งเป็นชลาพุชะกำเนิด คือ การกำเนิดในครรภ์ มี ๓ กลาป คือ หทยทสกกลาป ๑ กายทสกกลาป ๑ ภาวทสกกลาป ๑ และ เมื่อเจริญเติบโตขึ้น จักขุทสกกลาป ๑ โสตทสกกลาป ๑ ฆานทสกกลาป ๑ ชิวหาทสกกลาป ๑ ก็เกิดขึ้น ตามสมควรแก่กาลของกลาปนั้นๆ
สำหรับผู้ที่ปฏิสนธิเป็นโอปปาติกกำเนิดคือ การเกิดเป็นกายที่มีอวัยวะครบทันที เช่น เทวดา เปรต อสุรกาย และ ผู้ที่เกิดในนรก มีกัมมชรูปครบทั้ง ๗ กลาป (ข้างต้น) โดยเกิดพร้อมกันทันทีทั้ง ๗ กลาปในขณะปฏิสนธิ แต่ถ้ากรรมประเภทใดไม่เป็นปัจจัยให้รูปประเภทใดเกิด ก็เว้นรูปกลาปนั้นๆ ทั้งในปฏิสนธิกาล (ขณะปฏิสนธิจิตเกิด) และในปวัตติกาล คือ ขณะหลังปฏิสนธิ.
ซึ่งทั้งหมดนั้น ก็กล่าวถึงความเป็นจริงของรูปธรรมที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
กัมมชรูป เป็นรูปที่เกิดจากกรรม เช่น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็เกิดจากกรรม ค่ะ
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนา ครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ผมเคยเข้าใจว่ามนุษย์ต้องมี ๘ กลาป โดยรวมชีวิตนวกลาปเป็นกลาปที่ ๘ เสียอีก
ขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติมครับ
ชีวิตนวกกลาป มีเฉพาะในรูปพรหมบุคคลใช่รึเปล่าครับ และชีวิตนวกกลาป มีความสำคัญอย่างไรครับ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เรียนความเห็นที่ 9 ครับ
ชีวิตนวกกลาป หมายถึงกลุ่มของชีวิตรูป ซึ่งมีรูปรวมกัน 9 รูป คือ อวินิพโภครูป 8 กับ ชีวิตินทริยรูป เป็นรูปของอสัญญสัตตาพรหม ซึ่งเป็นพรหมบุคคลที่มีแต่รูปธรรมไม่มีนามธรรม อสัญญสัตตาพรหม มี กัมมชกลาป 1 กลาป คือ ชีวิตนวกกลาป และ ชีวิตนวกกลาป ก็ยังเป็นรูปที่เกิดจากกรรมของรูปพรหมอื่นๆ ด้วย เพราะเหตุว่า ผู้ที่เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล ในรูปพรหมภูมิ (เว้นอสัญญสัตตาพรหม) มีกัมมชรูป 4 กลาปเท่านั้น คือ หทยทสกกลาป จักขุทสกกลาป โสตทสกกลาป และชีวิตนวกกลาป ไม่มีฆานปสาทรูป ไม่มีชิวหาปสาทรูป ไม่มีกายปสาทรูป ไม่มีภาวรูป ซึ่งเป็นผลของการระงับความเพลิดเพลินยินดีในกามอารมณ์ด้วยกำลังของฌานจิตที่เป็นปัจจัยให้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล
เปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนว่า ผู้ที่เป็นมนุษย์ มีฆานปสาทะ มีชิวหาปสาทะ มีกายปสาทะ และมีภาวรูป แต่รูปพรหมไม่มีรูปต่างๆ เหล่านั้นตามที่กล่าวมา แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีรูป ที่จริงแล้วมีรูป โดยที่รูปส่วนนั้น เป็น ชีวิตนวกกลาป ครับ
ดังนั้น จากคำถามของคุณหมอ daris ที่ถามว่า ชีวิตนวกกลาปมีเฉพาะในรูปพรหมใช่หรือเปล่า ก็ได้คำตอบว่า ชีวิตนวกกลาปมีเฉพาะในรูปพรหมบุคคล เท่านั้นครับ
คำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ มีดังนี้
"ผู้ที่ปฏิสนธิเป็นพรหมบุคคลในรูปพรหมภูมิ เป็นโอปปาติกกำเนิด มีกัมมชรูป ๔ กลาปเท่านั้น คือ หทยทสกกลาป จักขุทสกกลาป โสตทสกกลาป และชีวิตนวกกลาป เว้นฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูป ภาวรูป ซึ่งเป็นผลของการระงับความเพลิดเพลินยินดีในกามอารมณ์ด้วยกำลังของฌานจิต ที่เป็นปัจจัยให้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล
ผู้ที่เป็นอสัญญสัตตาพรหมคือ พรหมที่มีแต่รูปธรรม ไม่มีนามธรรมเลยนั้น มีกัมมชกลาป ๑ กลาป คือชีวิตนวกกลาป การเกิดเป็นอสัญญสัตตาพรหมนั้น เป็นผลของปัญจมฌาน ที่คลายความยินดีในนามธรรม เพราะเห็นโทษของนามธรรมที่เป็นไปตามกิเลส จึงปรารถนาที่จะไม่มีนามธรรม เมื่อปัญจมฌานกุศลจิตไม่เสื่อม และปัญจมฌานกุศลจิตเกิดก่อนจุติจิต ด้วยความหน่ายในนามธรรม จึงเป็นปัจจัยให้รูปปฏิสนธิในอสัญญสัตตาพรหมภูมิ มีอายุ ๕๐๐ กัปป์ เมื่อไม่มีนามธรรมเกิดเลย จึงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อจุติ (ก่อนเป็นอสัญญสัตตาพรหม) ด้วยอิริยาบถใด รูปปฏิสนธิของอสัญญสัตตาพรหม ก็เป็นอิริยาบถนั้นจนกว่ารูปจะจุติ และกุศลกรรมหนึ่งจึงเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตและกัมมชรูปเกิดในกามสุคติภูมิ วนเวียนเป็นกิเลส กรรม วิบากต่อไป ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท
กลุ่มของรูปที่เป็นชีวิตนวกกลาป เป็นกลุ่มของรูปที่รักษากัมมชรูปกลุ่มอื่น โดยเฉพาะชีวิตรินทียรูป ที่มีลักษณะรักษาสหชาตรูป คือรูปที่เกิดขึ้นพร้อมกัน ให้มีชีวิตดำรงอยู่ได้ เหมือนน้ำที่หล่อเลี้ยงดอกอุบลฉะนั้น ชีวิตรูปเป็นรูปที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน คือเกิดจากกรรม จึงตามอนุบาลรักษากัมมชรูปที่เกิดพร้อมกันเท่านั้น ทำให้รูปของสัตว์ที่มีชีวิตแตกต่างจากรูปของสิ่งที่ไม่มีชีวิตหรือสัตว์ที่ตายแล้ว
ขอกราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอาจารย์ผเดิมด้วยครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ได้อ่านเพิ่มเติมแล้วครับ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ