เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน
พระสูตร สังยุตตนิกาย อังคุตตรนิกาย ขุทกนิกายคาถาธรรมบท มีความแตกต่างกันอย่างไรครับ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาัสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังยุตตนิกาย แปลว่า หมวดประมวล คือประมวลเรื่องประเภทเดียวกันไว้เป็นหมวดหมู่
อังคุตตรนิกาย แปลว่า หมวดยิ่งด้วยองค์ คือจัดลำดับธรรมะไว้เป็นหมวดๆ ตามลำดับตัวเลข เช่น หมวดธรรมะข้อเดียว เรียกเอกนิบาต หมวดธรรมะ ๒ ข้อ เรียกทุกนิบาต หมวดธรรมะ ๓ ข้อ เรียกติกนิบาต ดังนี้เป็นต้น จนถึงหมวดธรรมะ ๑๐ ข้อ เรียกทสกนิบาต หมวดธรรมะเกิน ๑๐ ข้อ เรียกอติเรกทสกนิบาต
คาถาธรรมบท คือ ข้อของธรรมที่เป็นพระคาถาต่างๆ
รวมความว่า ทั้ง 3 เป็นพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดีแล้ว ครับ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลกทั้งปวง เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ทรงแสดงพระธรรมที่พระองค์ทรงตรัสรู้โปรดเวไนยสัตว์ ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา สิ่งที่พระองค์ทรงแสดง ก็ไม่พ้นไปจากสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ทรงพร่ำสอนอยู่บ่อย ๆ เนืองๆ ก็เพื่อให้ผู้ฟังมีความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม ในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสได้ในที่สุด
จึงเห็นได้ว่า สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงในชีวิต คือ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจตามความเป็นจริง เป็นไปเพื่อการเจริญขึ้นของปัญญา เพื่อขัดเกลากิเลสจนหมดสิ้น ถ้าไม่ได้อาศัยพระธรรม ไม่มีการอบรมเจริญปัญญาแล้ว สังสารวัฏฏ์ก็จะดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ดังนั้น จึงต้องเริ่มสะสม อบรมเจริญปัญญาด้วยตนเอง เห็นประโยชน์สูงสุดของปัญญา เพิ่มพูนความเข้าใจถูกเห็นถูกขึ้นไปตามลำดับ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงแสดงพระธรรมถึง ๔๕ พรรษา ซึ่งเมื่อรวบรวมเป็นหมวดหมู่แล้ว ก็เป็นพระวินัยปิฎกส่วนหนึ่ง เป็นพระสุตตันตปิฎกส่วนหนึ่ง เป็นพระอภิธรรมปิฎกส่วนหนึ่ง และมีอรรถกกถาอธิบาย เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตามพระพุทธพจน์ยิ่งขึ้น ทุกคำที่เป็นไปเพื่อเข้าใจความจริง เป็นคำของพระองค์ทั้งหมด ในส่วนของพระสูตร ก็หลากหลาย เป็นพระสูตรยาวบ้าง สั้นบ้าง เป็นหมวดธรรมต่างๆ บ้าง เป็นเรื่องราวในอดีตที่เคยเกิดขึ้นจริงบ้าง ซึ่งจะปรากฏในส่วนของธรรมบท ชาดก เป็นต้น ในส่วนของอังคุตตรนิกาย ก็จะมีธรรมเป็นหมวดๆ เช่น ธรรมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก ๒ อย่างได้แก่ หิริ (ความละอายต่อบาป) โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อบาป) เป็นต้น ในส่วนของคาถาธรรมบท จะมีคาถา และก่อนถึงคาถา ก็จะปรารภถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และ มีคำอธิบายขยายความในคาถานั้นๆ ด้วย ซึ่งก็แสดงให้เข้าใจความจริงทั้งหมด
โดยที่พระธรรมทุกคำ มีคุณค่าสุดที่จะเปรียบ เพราะเหตุว่าถ้าสามารถจะเข้าใจทุกพยัญชนะได้จริง จะเกื้อกูลให้แต่ละบุคคลอบรมเจริญปัญญาได้โดยถูกต้อง ไม่ผิดพลาด เพราะฉะนั้น จึงต้องศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ ตั้งใจศึกษาพระธรรมด้วยความไม่ประมาทในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความจากอังคุตตรนิกาย และ คาถาธรรมบทได้ที่นี่ครับ
พาลวรรคที่ ๓ พระสูตรที่ ๑ ถึง ๓ ...วันเสาร์ที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๘
เจโตขีลสูตร,วินิพันธสูตร...เสาร์ที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๕
เป็นไปไม่ได้ กับ เป็นไปได้ [อังคุตตรนิกาย ทุกนิบาต]
เรื่องธิดานายช่างหูก [คาถาธรรมบท]
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.
พระสูตร สังยุตตนิกาย เป็นพระสูตรที่รวบรวมแสดงธรรมโดยสั้นๆ เช่น เทวดาทูลถามว่า อะไรเป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ศรัทธาเป็นทรัพย์เครื่องใจอย่างประเสริฐของคนในโลกนี้ ฯลฯ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไพเราะมาก งามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด ค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ