ได้ยินประโยคนี้จากในซีดี "ในภูมิที่มีขันธ์ห้า จิตต้องเกิดที่รูป" ไม่เข้าใจครับ ขอคำอธิบายและตัวอย่างด้วยครับ
ขอบพระคุณและอนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไร ก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริง รวมถึง จิต ด้วย จิตเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์ จิตมีลักษณะเพียงรู้แจ้งอารมณ์ (ซึ่งเป็นสิ่งที่จิตรู้) เท่านั้น ที่จิตมีความหลากหลาย แตกต่างกันไปนั้นเพราะเหตุหลายอย่าง เช่น หลากหลายเพราะอารมณ์ หลากหลายเพราะเจตสิกธรรม (ธรรมที่เกิดร่วมกับจิต) เป็นต้น
จากประโยคที่ว่า ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ จิตต้องเกิดที่รูป หมายความว่า ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ครบ คือ มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ กล่าวคือ อบายภูมิ สุคติภูมิ และรูปพรหมภูมิ (ยกเว้น อสัญญสัตตาพรหมภูมิ ซึ่งมีเพียงรูปธรรม) [ไม่ใช่ภูมิที่มีขันธ์เดียว คือ อสัญญสัตตาพรหมภูมิ และ ไม่ใช่ภูมิที่มี ๔ ขันธ์ ซึ่งมีเฉพาะนามธรรม คืออรูปพรมหมภูมิ] จิต ต้องมีที่เกิด และที่เกิดของจิต นั้น ก็คือวัตถุรูป ๖ รูป คือ จักขุวัตถุรูป เป็นที่เกิดของจักขุวิญญาณ, โสตวัตถุรูป เป็นที่เกิดของโสตวิญญาณ, ฆานวัตถุรูป เป็นที่เกิดของฆานวิญญาณ, ชิวหาวัตถุรูป เป็นที่เกิดของชิวหาวิญญาณ, กายวัตถุรูป เป็นที่เกิดของกายวิญญาณ และ หทยวัตถุรูป เป็นที่เกิดของจิตอื่นๆ ที่เหลือ และเมื่อกล่าวถึงจิตแล้ว ก็ย่อมหมายรวมถึงเจตสิก ซึ่งเป็นสภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิตด้วย เช่น จักขุวิญญาณเกิดที่จักขุวัตถุรูป เจตสิกที่เกิดร่วมกับจักขุวิญญาณก็เกิดที่จักขุวัตถุรูป ด้วย เพราะความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นเจตสิกธรรม คือ เกิดพร้อมกับจิต ดับพร้อมกับจิต รู้อารมณ์เดียวกันกับจิต และในภูมิที่มีขันธ์ ๕ ก็อาศัยที่เกิดที่เดียวกันกับจิต ด้วย
ดังนั้น ในภูมิที่มีขันธ์ ๕ จิต (และเจตสิก) ย่อมเกิดที่วัตถุรูป รูปใดรูปหนึ่งตามควรแก่จิตประเภทนั้นๆ ส่วนในภูมิที่มีขันธ์เดียว คือ มีเฉพาะรูปธรรม ซึ่งเป็นอสัญญสัตตาพรหม ไม่มีจิตเกิดขึ้น และในภูมิที่มีขันธ์ ๔ คือ ในอรูปพรหมภูมิ จิตและเจตสิกอาศัยกันและกันเกิดขึ้น เพราะในอรูปพรหมภูมินี้ไม่มีรูปธรรม มีเฉพาะนามธรรม ที่เป็นขันธ์ ๔ ขันธ์ คือ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ ทั้งหมดล้วนเป็นธรรม ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเท่านั้น ไม่มีสัตว์ ไม่มีบุคคล ไม่มีตัวตน และเป็นธรรมที่ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตอธิบายโดยยกตัวอย่างในชีวิตประจำวัน ของ การเกิดขึ้นของจิต เจตสิก ที่เกิดขึ้นที่วัตถุ รูป ๖ เช่น ขณะนี้ เมื่อความโกรธเกิดขึ้น ความโกรธ เป็น จิตที่โกรธ จิตโกรธจะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัย รูปเป็นที่เกิด คือ หทยรูป เจตสิกที่เกิดร่วมด้วยกับความโกรธที่เป็นโทสมูลจิต เช่น โทสเจตสิก ผัสสเจตสิก เวทนา สัญญา เป็นต้น เจตสิกทั้งหมดนั้นเกิดที่ หทยรูป ส่วนในขณะนี้ที่กำลังเห็น จิตเห็นเกิดขึ้น จิตเห็นเกิด ที่ จักขุปสาทรูป แต่ในภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ ไม่ครบ เช่น อรูปพรหมที่มีแต่นามธรรม อรูป พรหม ขณะที่มีความโลภ เกิดขึ้น จิตที่เป็นโลภะเกิดขึ้น อรูปพรหมไม่มีรูป จิตที่เป็น โลภะ จึงไม่ต้องอาศัยรูปเกิดขึ้น ครับ
ประโยชน์ที่สำคัญที่สุด ในการศึกษาเรื่อง อภิธรรม โดยเฉพาะ เรื่อง จิตและเจตสิกเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัย ที่เกิด คือ รูป เกิดขึ้นในภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ ประโยชน์ คือ เพื่อความเข้าใจถูกของผู้ที่ศึกษาว่า ธรรมทั้งหลาย อาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น หากไม่มีสภาพธรรมบางอย่าง สภาพธรรมอีกอย่างก็เกิดขึ้นไม่ได้ นี่แสดงให้เห็นถึง ความไม่มีเรา ไม่มีสัตว์ บุคคล ที่ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ เพราะอาศัยเหตุปัจจัย คือ รูป ซึ่ง รูปไม่ใช่เรา จิตเจตสิกที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรา เมื่อเข้าใจประเด็นที่จิต เจตสิก ต้องอาศัยรูปจึงเกิดขึ้น จึงไม่มีเราที่จะต้องไปทำอะไร ทั้งสิ้น และก็น้อมไปสู่ การเจริญวิปัสสนา และ การปฏิบัติธรรมได้ครับว่า ไม่มีเราที่จะต้องทำปฏิบัติ แต่มีแต่ธรรมที่จะทำหน้าที่ปฏิบัติ เพราะ จะต้องอาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น คือ อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม นั่นเองครับ นี่คือ ประโยชน์ที่ได้จากการศึกษาพระอภิธรรม คือ ไม่มีเรา มีแต่ธรรม และธรรมทั้งหลาย อาศัย เหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น ไม่มีเรา ที่จะทำอะไรได้เลยทั้งสิ้น ครับ
ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา
รบกวนสอบถามเพิ่มเติมค่ะ เนื่องจากจิตและเจตสิกเป็นสภาพรู้ เป็นนามธรรม จึงไม่มีขอบเขต บริเวณ ดังนั้นการที่กล่าวว่า จิตเกิดที่วัตถุรูป หมายถึง ต้องมีรูปนั้นเกิดขึ้น และมีอยู่ จิตประเภทนั้นๆ จึงเกิดขึ้นได้ ใช่รึเปล่าคะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เรียนความเห็นที่ 3 ครับ
ถูกต้องครับ ในภพภูมิที่มีขันธ์ ๕ จิตและเจตสิกที่เกิดขึ้น จะต้องเกิดที่ วัตถุรูป ๖ รูปใดรูปหนึ่ง ซึ่งขณะที่จิตเกิดขึ้น เกิดที่รูปนั้น รูปนั้นก็ยังไม่ได้ดับไปนั่นเอง ซึ่ง วัตถุรูป ๖ เป็นรูปที่เกิดจากกรรม เป็นปัจจัย ซึ่งก็เกิดขึ้นและดับไป แต่ขณะที่ จิตเกิดขึ้น เกิดที่รูปใดรูปหนึ่ง ใน วัตถุรูป ๖ รูปนั้น ก็เกิดขึ้นและยังไม่ได้ดับไปในขณะนั้นนั่นเอง ครับ ซึ่งผู้ถามมีความเข้าใจถูกต้องแล้ว ครับ
ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอ.ผเดิม และทุกท่านค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
"เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี"
"ธรรมทั้งหลาย อาศัยเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น"
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยครับ