ดิฉันรู้สึกเศร้าใจและทุกข์ใจมาก คือแมวของดิฉันหายออกจากบ้านไป แล้วแมวถูกหมากัดตาย วันที่แมวหายไปดิฉันพยายามหามันทั่ว ดิฉันกลัวว่าแมวจะถูกหมากัดตาย แต่ในใจก็หวังให้มันรอดแล้วมีคนเก็บไปเลี้ยง แต่สุดท้ายมันตาย ดิฉันรู้สึกเหมือนเป็นต้นเหตุทำให้แมวต้องตาย รู้สึกว่าตัวเองผิดที่ไม่ดูแลมันให้ดี ดิฉันเศร้าและทุกข์ใจมาก ที่ทำให้มันต้องตาย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่เป็นปุถุชน ก็ยังมีกิเลสที่ยังหวั่นไหวที่จะเดือดร้อนในสิ่งที่ทำ เพราะยังมีกิเลส และ ยังไม่มีความมั่นคงพอที่จะเข้าใจว่า เป็นไปตามเหตุปัจจัยของสภาพธรรม แมว ก็มีกรรมเป็นของมัน จึงไม่มีใครที่ได้รับทุกข์ และ ไม่มีผู้ใดที่ทำให้คนอื่นทุกข์ด้วย ทุกข์ทั้งหลายเกิดจากเหตุปัจจัย คือ กุศลกรรม และอกุศลกรรมที่สัตว์โลกทำกันมา แต่อย่างไรก็ดี ผู้ที่กระทำ ที่สมมติว่าเป็นสัตว์บุคคล ก็ไม่ได้มีเจตนาฆ่า ก็ไม่บาป ส่วน แมวก็ได้รับกรรม ตามสมควรที่ตนเคยทำมาและตอนนี้ แมวก็เกิดไปนานแล้ว และ เขาอาจเกิดในที่ที่ดี มี สวรรค์ เป็นต้นก็ได้ ดังนั้น แทนที่จะเศร้าใจ ก็ควรเห็นว่า เกิดใหม่แล้ว โดยที่เขาไม่ได้เจ็บอะไรเลย และอาจได้รับความสุขมากกว่าการเป็นแมวด้วย ดังนั้น หน้าที่ที่สำคัญ คือ การทำบุญ อุทิศส่วนกุศลไปให้ สำคัญกว่า ส่วนตนเองก็มีหน้าที่ที่จะอบรมปัญญาต่อไป และ ควรเห็นถึงกิเลสที่มีกำลัง เพือที่จะได้ไม่ประมาทที่จะอบรมปัญญา ศึกษาพระธรรม อันเป็นการรู้สาเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริง ครับ ทำดีที่สุดด้วยการทำบุญไปให้ และ อบรมปัญญาของตนเองเป็นสำคัญ ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สภาพธรรมเกิดเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ ชีวิตประจำวันจึงไม่พ้นไปจากธรรม ขณะที่เศร้าโศกเสียใจมีจริงๆ เป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น บุคคลผู้ที่ยังมีความเศร้าโศกอยู่นั้น ก็เพราะยังมีกิเลส ยังมีความติดข้อง ยินดีพอใจ ยังมีอวิชชาอยู่ จึงต้องมีความเศร้าโศกเป็นธรรมดา เมื่อมีความติดข้อง ผลที่ตามมาคือ ความเศร้าโศกเสียใจ เมื่อสิ่งที่ติดข้องนั้นพลัดพรากจากไป แต่เมื่อได้อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ย่อมจะทำให้เข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน และเป็นความจริงที่ว่าขึ้นชื่อว่าสัตว์โลก แล้ว ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีชาติ ชราย่อมติดตาม พยาธิก็ครอบงำและท้ายที่สุดก็ถูกมรณะคือความตายห้ำหั่น ไม่มีใครรอดพ้นได้เลย
สัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน ไม่มีใครสามารถจะรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแม้ในขณะต่อไป, จากกรณีการตายของสัตว์อื่น ก็สามารถพิจารณาได้ว่า ในที่สุดเราก็จะตายเหมือนกัน ไม่ใช่ตายแต่เฉพาะผู้อื่น ก็จะเป็นเครื่องเตือนใจตนเองอยู่เสมอเพื่อเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทกำลังของอกุศล และไม่ประมาทในการเจริญกุศล ซึ่งรวมถึงการอบรมเจริญปัญญาเพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูกยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย เพราะเมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตในภพนี้ชาตินี้มาถึง ต้องบ่ายหน้าไปสู่ความตาย ไม่มีใครสามารถที่จะขอร้องต่อรองใดๆ ได้เลย ครับ.
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ