การที่บุคคลในสังคมยังกินเหล้า เราจะอธิบายอย่างไรให้เขาเลิก
โดย เจริญในธรรม  12 ก.พ. 2552
หัวข้อหมายเลข 11238

การที่บุคคลในสังคมยังกินเหล้า เราจะอธิบายอย่างไรให้เขาเลิก บางคนกินไวน์ รูทเบียร์ ในงานต่างๆ เขามักกินกันเป็นปกติ บางคนก็เป็นคนดีในสังคมนะครับ แต่ก็ยังกินเหล้าอยู่ กลายเป็นเรารักษาศีลก็ผิดปกติไปจากเขา



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 13 ก.พ. 2552

ถ้าบุคคลใดได้ศึกษาพระธรรมจนเข้าใจ เห็นโทษของการล่วงศีล เห็นคุณของกุศลศีล ย่อมจะค่อยๆ ลด ค่อยๆ ละ ค่อยๆ เลิก สุราเมรัย และที่แน่ๆ คือถ้าบุคคลใดฟังพระธรรมจนถึงความเป็นพระอริยบุคคล บุคคลนั้นย่อมเว้นจากสุราเมรัยตลอดชีวิต ตลอดสังสารวัฏฏ์ ไม่มีแม้จิตคิดจะดื่มอีกเลย ดังนั้นมีเพียงหนทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ คนทุศีล กลับเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ก็คือ การฟังพระธรรมเพื่ออบรมเจริญปัญญา จนถึงโลกุตตรปัญญา...


ความคิดเห็น 2    โดย paderm  วันที่ 15 ก.พ. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ปัญญเกิดจึงละได้ ปัญญาไม่เกิดละไม่ได้ ธรรมจึงไม่ใช่คำสั่ง เพราะเป็นอนัตตา ธรรมทำหน้าที่ อาศัยการฟังธรรม จนปัญญาเจริญขึ้นจนเห็นประโยชน์ เห็นโทษ ย่อมละได้ แต่ยังละไม่ได้เด็ดขาดจนกว่าจะเป็นพระโสดาบัน พระสารีบุตรกล่าวเตือนคนที่เขาฆ่าสัตว์ เขารับคำแต่ ก็ยังฆ่าสัตว์เหมือนเดิมครับ ดังนั้น จึงต้องเป็นปัญญาของผู้นั้นเอง ถ้อยคำในเรื่องศีลย่อมเป็นถ้อยคำชั่วของผู้ทุศีล จึงควรไม่ใช่พูดให้ละ แต่พูดให้เข้าใจในเหตุที่จะละได้ คือ การฟังพระธรรมครับ

อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์


ความคิดเห็น 3    โดย ศิณอนงค์  วันที่ 18 ก.พ. 2552

ส่วนใหญ่จะหวังผล และกลัวผล

พี่ที่รู้จักก็เลิกเหล้า เพราะกลัวผล ที่ว่าเกิดชาติหน้าแล้วจะเป็นคนปัญญาอ่อน เขาจึงเลิกค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเชื่อกันทุกคนนะ อยู่ที่สะสมมา พระธรรมไม่สาธารณะกับทุกคน จะให้สัทธรรมเป็นเรื่องสาธารณะที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ ย่อมเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นอสัทธรรม


ความคิดเห็น 4    โดย ajarnkruo  วันที่ 18 ก.พ. 2552

เรื่องของศีล ไม่ใช่เรื่องที่ว่าเราจะอธิบายให้เขาเข้าใจได้อย่างไรแต่เป็นเรื่องของการเกื้อกูลกันด้วยเมตตา เมื่อถึงเวลาที่เขาพร้อมจะฟังปกติของใครจะเป็นอย่างไร เขาก็ต้องเป็นไปตามการสะสมคนที่เราคิดว่าเป็นคนดีในสังคมถ้าเขายังไม่ใช่พระอรหันต์ ก็ต้องมีทั้งกุศล และ อกุศลส่วนเรื่องของสายตาชาวบ้าน ใครจะมองเราอย่างไร ก็ต้องเป็นผู้ที่แยบยลไม่งั้นเราเองจะหลงกล ไปเผลอคิดว่าเป็น "คน" มองว่า "ตน" แปลกแยกออกไปแท้ที่จริงแล้วก็ไม่มีใครจะไปรู้เท่าทันอกุศลของผู้ใดได้ ถ้าไม่มีปัญญาแม้แต่ในขณะที่เราคิดถึงผู้อื่น ขณะนั้นนอกจากความคิดแล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดปรากฏ ชั่วขณะ แล้วก็ดับหมดไป หาความเป็นเราที่ไหนไม่ได้เลย


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 3 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ