[เล่มที่ 72] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 515
เถรีอปทาน
สุเมธาวรรคที่ ๑
สัตตอุปลมาลิกาเถรีอปทานที่ ๘ (๘)
ผลของการถวายดอกอุบล ๗ ดอก
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 72]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 515
สัตตอุปลมาลิกาเถรีอปทานที่ ๘ (๘)
ผลของการถวายดอกอุบล ๗ ดอก
[๑๕๘] ในพระนครอรุณวดี มีพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งพระนามว่า อรุณ ดิฉัน เป็นพระอัครมเหสีของท้าวเธอ
ดิฉันร้อยพวงมาลัยอยู่ ได้หยิบเอาดอก อุบลมีกลิ่นหอมเหมือนทิพย์มา ๗ ดอก แล้วนั่ง ลงในปราสาทอันประเสริฐ คิดขึ้นในขณะนั้น เองว่า
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 516
ประโยชน์อะไร ด้วยพวงมาลัยเหล่านี้ ซึ่งเราเอาประดับศีรษะเรา เราเอาบูชาในพระญาณของพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด จะประเสริฐ กว่า
ชนทั้งหลายเขาพากันนับถือบูชาพระสัมพุทธเจ้า เราจะนั่งที่ใกล้ประตูจักบูชา พระสัมพุทธเจ้าผู้มหามุนีในเวลาที่พระองค์เสด็จ มา
พระพิชิตมารผู้งดงามดังต้นรกฟ้าขาว หรือมิฉะนั้น ก็เปรียบเหมือนไกรสรมฤคราช พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เสด็จมาตามถนน
ดิฉันเห็นพระรัศมีของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ร่าเริงสลดใจ ยังไม่ทันถึงประตูก็บูชาพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด.
ดิฉันทำดอกอุบลอันบานเต็มที่ ๗ ดอก ให้เป็นของกั้นแดดในอัมพร ดอกอุบลเหล่านั้น กั้นแดดอยู่เหนือพระเศียรพระพุทธเจ้า.
ดิฉันมีจิตประกอบด้วยปีติ ดีใจ เกิด โสมนัสประนมอัฐชลี ยังจิตให้เลื่อมใสในกาลนั้น แล้วได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เหนือศีรษะของดิฉัน เขากั้นเศวตฉัตร ขนาดใหญ่ มีกลิ่นหอมดังกลิ่นทิพย์ฟุ้งไป นี้เป็น ผลแห่งดอกอุบล ๗ ดอก.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 517
บางครั้ง เมื่อดิฉันถูกหมู่ญาตินำเอาไป ครั้งนั้น เศวตฉัตรคันใหญ่ย่อมกั้นแดดไว้ทั่ว บริษัทของดิฉัน
ดิฉันได้เป็นพระอัครมเหสีของท้าว สักรินทเทวราช ๗๐ พระองค์ ดิฉันเป็นอิสระทุก ภพ เที่ยวไปในภพน้อยใหญ่ ได้เป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดิ ๖๓ พระองค์ ชน ทั้งหลายประพฤติตามดิฉันทุกคน ดิฉันมีถ้อยคำ น่าเชื่อถือ.
ผิวพรรณของดิฉันเหมือนดอกอุบล และ กลิ่นก็ฟุ้งไปเหมือนกลิ่นอุบลหอม ดิฉันไม่รู้จัก ทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
ดิฉันเป็นผู้ฉลาดในอิทธิบาท ยินดีในการ เจริญโพชฌงค์ ถึงความบริบูรณ์ในอภิญญา นี้ เป็นผลแห่งพุทธบูชา
ดิฉันเป็นผู้ฉลาดในสติปัฏฐาน มีสมาธิ ฌานเป็นโคจร ขวนขวายในสัมมัปปธาน นี้เป็น ผลแห่งพุทธบูชา.
ความเพียรของดิฉันนำเอาธุระน้อยใหญ่ ไป นำเอาธรรมที่เป็นแดนเกษมจากโยคะมาให้ ดิฉันมีอาสวะสิ้นไปหมดแล้ว บัดนี้ภพใหม่ไม่มี อีก
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๙ ภาค ๑ - หน้า 518
ในกัปที่ ๓๑ แต่กัปนี้ ดิฉันได้เอาดอก ไม้บูชาใด ด้วยการบูชานั้น ดิฉันจึงไม่รู้จักทุคติ เลย นี้เป็นผลแห่งพุทธบูชา
ดิฉันเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ... คำสอน ของพระพุทธเจ้า ดิฉันได้ทำเสร็จแล้ว.
ทราบว่า ท่านพระสัตตอุปลมาลิกาภิกษุณีได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบสัตตอุปลมาลิกาเถรีอปทาน