พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๔ - หน้าที่ 444
๙. เรื่องพระสารีบุตรเถระ [๒๗๒]
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระสารีบุตรเถระ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " ยมฺหา ธมฺม วิชาเนยฺย " เป็นต้น. พระสารีบุตรเคารพในพระอัสสชิผู้อาจารย์ ได้ยินว่า ท่านพระสารีบุตรนั้น จำเดิมแต่กาลที่ท่านฟังธรรมในสำนักของพระอัสสชิเถระแล้วบรรลุโสดาปัตติผล สดับว่า " พระเถระย่อมอยู่ในทิศใด" ก็ประคองอัญชลีไปทางทิศนั้น นอนหันศีรษะไปทางทิศนั้นแล. ภิกษุทั้งหลายกล่าวว่า " พระสารีบุตรเป็นมิจฉาทิฏฐิ ถึงวันนี้ก็เที่ยวนอบน้อมทิศทั้งหลายอยู่ " ดังนี้แล้ว กราบทูลเนื้อความนั้นแด่พระตถาคต.
พระศาสดารับสั่งให้เรียกพระเถระมาแล้ว ตรัสถามว่า " สารีบุตร
นัยว่า เธอเที่ยวนอบน้อมทิศทั้งหลายอยู่ จริงหรือ?" เมื่อพระเถระกราบทูลว่า " พระเจ้าข้า พระองค์เท่านั้นย่อมทรงทราบความเป็นคืออันนอบน้อมหรือไม่นอบน้อมทิศทั้งหลาย ของข้าพระองค์ " ดังนี้แล้ว,ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรย่อมไม่นอบน้อมทิศทั้งหลาย, แต่เพราะความที่เธอฟังธรรมจากสำนักของพระอัสสชิเถระ แล้วบรรลุโสดาปัตติผลจึงนอบน้อมอาจารย์ของตน; เพราะว่า ภิกษุอาศัยอาจารย์ใด ย่อมรู้ธรรม,ภิกษุนั้นพึงนอบน้อมอาจารย์นั้นโดยเคารพ เหมือนพราหมณ์นอบน้อมไฟอยู่ฉะนั้น" ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :- " บุคคลพึงรู้แจ้งธรรม อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงแล้ว จากอาจารย์ใด, พึงนอบน้อมอาจารย์ นั้นโดยเคารพ เหมือนพราหมณ์นอบน้อมการบูชาเพลิงอยู่ฉะนั้น." แก้อรรถ บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อคฺคิหุตฺตว ความว่า บุคคลพึงรู้แจ้งธรรมอันพระตถาคตประกาศแล้ว จากอาจารย์ใด, พึงนอบน้อมอาจารย์นั้นโดยเคารพ เหมือนพราหมณ์นอบน้อมการบูชาเพลิงโดยเคารพ ด้วยการบำเรอด้วยดี และด้วยกิจทั้งหลายมีอัญชลีกรรมเป็นต้นฉะนั้น. ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องพระสารีบุตรเถระ จบ.
สาธุ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
เก็บเป็นความรู้ ขอบพระคุณมากครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ