ขอเรียนถามว่า อะไรคือ แก่นของพระพุทธศาสนา ธรรมะข้อใดที่ควรนำมาพิจารณามากที่สุด ถ้าเราได้เห็น, ได้รับรู้ และเข้าใจแล้วว่า ชีวิตในสังสารวัฏฏ์มีแต่ ทุกข์ โทษ และภัย. ไม่มีอะไรที่น่าได้ มี หรือเป็น. เกิดความเบื่อหน่าย
และคิดหาทางออกให้พ้นไปเสียชาตินี้. ไม่มีความปราถนาที่จะเกิดอีกไม่ว่าในภพใด
หรือสถานภาพใด.
ในมหาสาโรปมสูตร พระพุทธองค์แสดงว่า แก่นของการประพฤติพรหมจรรย์ใน
พระศาสนานี้ คือ การรู้แจ้งอริยสัจจธรรม บรรลุความเป็นพระอรหันต์ ธรรมะทุกข้อที่
พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา ควรที่พุทธศาสนิกชนจะ
พิจารณา ทั้งเรื่อง ขันธ์ ธาตุ อายตนะ อริยสัจจ์ ปฏิจจสมุปบาท และพระสูตรทั้งหลาย
ที่แสดงความจริง เพราะพระอริยสาวกเมื่อรู้ความจริงย่อมเบื่อหน่าย และหลุดพ้น
เชิญคลิกอ่าน...
ว่าด้วยที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายของสงสาร [ติณกัฏฐสูตรที่ ๑]
เชิญคลิกอ่าน...........
ว่าด้วยเปรียบน้ำตากับน้ำในมหาสมุทร [อัสสุสูตร]
เราผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่ ได้กล่าวไว้ดังนี้ว่า กระดูกของบุคคลคนหนึ่งที่สะสมไว้กัปหนึ่ง พึง
เป็นกองเท่าภูเขา ก็ภูเขาที่เรากล่าวนั้น คือ ภูเขาใหญ่ชื่อเวปุลละ อยู่ทิศเหนือของภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้เมือง
ราชคฤห์ อันมีภูเขาล้อมรอบ เมื่อใดบุคคลเห็นอริยสัจ
คือทุกข์ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ความล่วงพ้นทุกข์ และ
อริยมรรคมีองค์ ๘ อันยังสัตว์ให้ถึงความสงบทุกข์
ด้วยปัญญาอันชอบ เมื่อนั้น เขาท่องเที่ยว ๗ ครั้ง
เป็นอย่างมาก ก็เป็นผู้ทำที่สุดทุกข์ได้ เพราะสิ้น
สังโยชน์ทั้งปวง ดังนี้แล.
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระอภิธรรม คือธรรมะที่ละเอียดยิ่ง พระอภิธรรม กล่าวถึงความเป็นปัจจัยซึ่งกันและกันของ จิต เจตสิก รูป ว่าเป็นทุกข์ ไม่เที่ยง และเป็นอนัตตา การศึกษาเรื่อง จิต เจตสิกและรูป ที่กำลังปรากฏ พิจารณาให้เข้าใจในความเป็นอนัตตาของธรรมทั้ง ๓ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะในขณะที่เห็น ได้รับรู้ และได้เข้าใจ นั้นไม่ใช่เรา ที่ไม่ใช่เราเพราะเป็นธรรมะและเป็นอนัตตา
อนุโมทนา