เมื่อปีกว่านี้ ดิฉันได้เข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับพี่คนโตซึ่งเขาเลี้ยงสุนัขแบบขังกรง และไม่ค่อยสนใจดูแลเรื่องอาหาร และการทำธุระของสุนัขเลย จนดิฉันและพี่อีกคนต้องจัดการให้ จนตอนนี้เริ่มเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยดูแลแทนเจ้าของที่ไม่สนใจสัตว์เลี้ยงของตัวเองเลย
ดิฉันไม่ได้เห็นด้วยที่เลี้ยงแบบขังกรง (มาอาศัยเขาอยู่ค่ะเลยไม่กล้าไปยุ่งกับการเลี้ยงของเขา) และตอนแรกแค่จะช่วยเลี้ยงแต่ตอนนี้กลายเป็นหน้าที่จนเบื่อที่จะทำแล้ว
แบบนี้ดิฉันจะต้องร่วมรับกรรมตรงนี้ไปด้วยไหมคะ ขอบคุณค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บาปไม่บาปสำคัญที่เจตนา ถ้ามีเจตนาเบียดเบียนสัตว์นั่นบาป แต่ถ้าไม่มีเจตนาเบียดเบียนก็ไม่บาป ดังนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะขัง คนอื่นขัง และเบื่อที่จะไม่เลี้ยง ก็คือ ไม่มีเจตนาที่จะช่วยเหลือ จิตเป็นอกุศลในขณะนั้น แต่ เป็นอกุศลที่ไม่ถึงจะต้องได้รับผลของบาป ดั่งเช่น การฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ หรือ การล่วงศีล 5 ครับ เพราะฉะนั้นธรรมเป็นเรื่องละเอียด ประโยชน์ต้องรุ้ว่าที่ทุกข์เดือดร้อนใจ เหตุแห่งทุกข์คืออะไรกันแน่ คือ กิเลสที่มีในใจ พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ รู้ความจริงว่าทั้งหมดเป็นธรรมเพื่อละกิเลส ละเหตุแห่งทุกข์ แม้จะได้คำตอบ สบายใจ แต่ไม่ศึกษาธรรม ไม่อบรมปัญญา ก็ไม่พ้นจากทุกข์อยู่ดี เพราะกิเลสยังมีมากนั่นเองครับ ดังนั้นควรที่จะสนใจศึกษาธรรมต่อไป
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่คิดจะไม่ให้อาหารแก่เขา จิตเป็นอะไร? เบื่อที่จะทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น จิตเป็นอะไร? มีอะไรที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นได้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำ เพราะขณะนั้น ไม่ได้เบียดเบียนเขา แต่ทำประโยชน์แก่เขา ให้อาหารเขา เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ จะเห็นได้เลยว่า เมื่อความดี เกิดขึ้น ความคิด การพูดและการกระทำ ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจะตรงกันข้ามกันกับขณะที่เป็นอกุศลอย่างสิ้นเชิง ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับคำตอบของทั้ง 2 ท่าน ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติและชี้นำทางที่ถูกต้องให้
ขอบคุณค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลค่ะ