เพราะว่า ตามความเป็นจริงแล้ว กุศลจิตเกิดขณะใด ขณะนั้นเป็นกัลยาณมิตร เพราะไม่เป็นโทษไม่เป็นภัยเลย เพราะฉะนั้น แทนที่จะคิดถึงเพื่อน ที่เป็นคนสักคนหนึ่ง .. ๒ คน .. ๓ คน ก็คิดถึงขณะจิตที่เป็นกุศล เมตตาเกิดขึ้นกับบุคคลใดในขณะใด ในขณะนั้นเป็นเพื่อนแท้กับบุคคลนั้น และกุศลจิตนั้นเองยังเป็นเพื่อนที่แท้จริง เพราะไม่ทำให้เกิดโทษภัยใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าเพียงคิดถึงเพื่อนที่เป็นคน ก็ยังอาจจะมีอกุศลจิตผูกพันในเพื่อน ในบุคคลนั้น ... ซึ่งในขณะนั้นก็ไม่ใช่กุศลจิต เพราะฉะนั้น ก็ไม่ใช่เพื่อนที่แท้จริง
กราบขออนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ยังจำคำอันเตือนใจนี้ได้
กุศลจิต...มิตรแท้ขออนุโมทนาบ้านธัมมะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ
สาธุ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ในขณะนั้นเป็นเพื่อนแท้กับบุคคลนั้น และกุศลจิตนั้นเองยังเป็นเพื่อนที่แท้จริง เพราะไม่ทำให้เกิดโทษภัยใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าเพียงคิดถึงเพื่อนที่เป็นคน ก็ยังอาจจะมีอกุศลจิตผูกพันในเพื่อน
กราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ท่านอาจารย์ให้รู้ให้เข้าใจในสภาพธรรมตามความเป็นจริงเสมอ ตรงตาม
สภาพธรรมในชีวิตปัจจุบันซึ่งเห็นได้ยาก เพื่อจะไม่ถูกธรรมะหลอกลวงค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เพื่อนที่ดีคือเพื่อนที่ให้คุณประโยชน์ไม่ให้โทษเลย
กุศลธรรมและความเห็นถูกจึงเป็นเพื่อนที่ดีอย่างยิ่ง
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 281
๙. ทุติยสูตร
[๑๗๔] เทวดาทูลถามว่า
อะไรหนอเป็นเพื่อนของคน อะไรหนอย่อมปกครองคนนั้น และสัตว์ยินดีในอะไร
จึงพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้.
[๑๗๕] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ศรัทธาเป็นเพื่อนของคน ปัญญาย่อมปกครองคนนั้น สัตว์ยินดีในพระนิพพานจึง
พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้. อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ศรัทธา.....ปัญญา.....นิพพานเหตุ...ผลสัจจธรรม.
.
.ขออนุโมทนาค่ะ.
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ