ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
คุณต่าย อัยดา : เริ่มต้นก็อยากปฏิบัติเลย เพราะมีทุกข์ โศกเศร้า จึงอยากไปปฏิบัติให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ คิดว่าปฏิบัติแล้วชีวิตจะดีขึ้น เช่นสวดมนต์ กำพระอยู่ 3 ปี ชีวิตก็ยังเหมือนเดิม แม้ฟังธรรมของทุกอาจารย์ก็ตาม ... ก็ต้องปฏิบัติ และเชื่อในมงคลตื่นข่าว (สีลัพพัตตปรามาส) เช่น พระรูปนี้จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 ได้ไปปฏิบัติ คือ สวดมนต์ กำพระ แผ่เมตตาไป 3 ภพภูมิ 3โลกธาตุ
คิดจะหาทางพ้นทุกข์ และอยากช่วยคนอื่นด้วย แต่ที่จริงต้องช่วยตัวเองก่อนใช่ไหมคะ!!
ทอจ : อะไรเป็นทุกข์ จึงทำให้อยากพ้นทุกข์!!
ต : การมีครอบครัว มีลูก มีสามี ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่อบอุ่น ไม่เป็นไปตามหวัง (โลภะ) หรือความคิดที่ตนเองอยากได้ แต่ของหนูเหมือนจะมีความสุข แต่ก็มีความทุกข์แทรกเข้ามา ทำให้เป็นทุกข์อยากจะหนีไปปฏิบัติ เลี่ยงไป 3 วัน 5 วัน 10 วัน เพื่อให้ตนเองออกจากปัญหา แต่พอกลับบ้าน ความโกรธ ความทุกข์ และความไม่เข้าใจก็ยังมีอยู่
ทอจ : นานไหมกว่าจะรู้ว่าไม่ใช่ทางพ้นทุกข์
ต : 3 ปี เขาบอกว่า ถ้าปฏิบัติดีก็จะเห็นอะไรหลายๆ อย่าง เข้าใจและจะเห็นอะไรอย่างนี้ค่ะ แต่หนูไม่เห็นอะไรเลย เห็นแต่ความผิดว่ามาทำอะไรที่นี่!!
ไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ ก็เริ่มเคว้ง จึงชอบนั่งสมาธิ คิดว่าอานาปานสติช่วยได้ คือ หลับตาและพิจารณา แต่ก็ไม่ใช่ คิดว่าตัวเองโชคไม่ดี เพราะพยายามที่จะไป แต่สถานที่นั้นเข้ายากมาก ต้องโทรจอง ต้องทำหลายรูปแบบ
ทอจ : โดยไม่เข้าใจว่าปฏิบัติคืออะไรใช่ไหม!!
ต : ตอนนั้นเข้าใจเพียงแต่ว่า ปฏิบัติทำให้เราหายจากทุกข์ได้ ไม่ได้คิดว่าต้องศึกษาธรรมะที่เป็นความจริง ที่เข้าใจว่าทุกข์คืออะไร
ทอจ : ไม่ได้คิดถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยหรือ!!!
ต : คิดในแบบที่ว่าเป็นชาวพุทธต้องทำความดี ตื่นเช้าต้องใส่บาตร กลางคืนต้องสวดมนต์และนั่งสมาธิ ถ้าอยากสงบ ก็ปลีกตัวเข้าห้องขอเวลา 10 นาทีทำสมาธิ เพื่อให้ใจสงบใจสบาย แต่พอออกมาเจอปัญหาก็เหมือนเดิม
ทอจ : ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย!!!
ต : เข้าใจว่าเห็นความผิดหลังจาก 3 ปีที่เข้าไปสถานที่นั้น ได้รู้จักคน ได้รู้ว่าตัวเองมีความทุกข์ และมีความไม่ดีมากแค่ไหน มีความเป็นตัวเองมากแค่ไหนค่ะ
ทอจ : ตอนนั้นรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม!!!
ต : รู้แต่ในหนังสือ ไม่ใช่รู้แบบว่าให้พิจารณาทุกข์เป็นขั้นตอนไป หลังจากพบที่นี่ (มศพ.) จึงเริ่มเข้าใจ
ทอจ : เดี๋ยวนี้รู้จักไหม!!
ต : ตอนนี้รู้จักค่ะ ก่อนนี้คือรู้ตามๆ กัน
ทอจ : ต้องตรงว่า เราคิดว่าเรารู้จักพระองค์ จนกว่าจะรู้ว่า รู้จักหรือเปล่า!!!
เชิญคลิกชม
คุณอัยดา กุลต๊ะคำ
สนทนากับ
อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และอาจารย์ มศพ.
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๔.๐๐ - ๑๖.๐๐ น.
🔵Facebook : เพจวิทยุออนไลน์
fb.watch/nbF2A-OjaD/?mibextid=cr9u03
🔵Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ
www.facebook.com/groups/dhammahome/permalink/7479423205417555/?mibextid=S66gvF
🔴YouTube :
www.youtube.com/live/h9Iifklkzo4?si=BUkCfBMTtFMqy2qT
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
อ.อรรณพ : ตอนนั้นรู้จักธรรมะหรือเปล่า!!
คุณต่าย : รู้จักว่าธรรมะคือธรรมชาติ แต่ไม่ลึกซึ้งเหมือนตอนนี้
อ : แล้วธรรมะตอนนั้นที่รู้จักเป็นธรรมะจริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นความคิดที่ไม่เข้าใจแต่คิดว่าเข้าใจ!!
ต : เป็นความคิดที่ไม่เข้าใจแต่คิดว่าเข้าใจและต้องไปปฏิบัติค่ะ
อ : เมื่อไม่ได้ฟังคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่รู้จักธรรมะ เมื่อไม่รู้จักธรรมะแล้วจะรู้จักพระองค์ได้อย่างไร!! ตรงไหม!!
ต : ตรงค่ะ พอเข้าใจธรรมะ ชีวิตง่ายมาก ทุกที่ๆ เคยไปอยู่แค่ 2-3 ปี แต่ที่นี่ศึกษามาเรื่อยๆ แม้มีอุปสรรค (ช่วงโควิดไม่มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์) ก็ยังคงศึกษา เพราะเห็นประโยชน์
ทอจ : ตอนนี้เข้าใจความละเอียดที่ว่า เราเข้าใจธรรมะ ... เป็นไปได้ไหมที่เราจะรู้จักธรรมะโดยที่ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า!! ไม่ได้ ... ต้องตรง!! เพราะฉะนั้น ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่รู้จักธรรมะแน่นอน
บางส่วนจากการสนทนาธรรม 21 ก.ย. 66 คุณอัยดา กุลต๊ะคำสนทนากับอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และอาจารย์ มศพ.
มีชีวิตปกติ แต่เข้าใจธรรมะตามความเป็นจริง เบาเพราะฟังธรรม และค่อยๆ เข้าใจความจริง เพราะไม่มีใครทำอะไรได้ ธรรมะเกิดแล้วตามเหตุปัจจัย เกิดแล้วดับแล้ว และไม่กลับมาอีกเลย แต่ไม่รู้ (อวิชชา) ความลึกซึ้ง
ต้องตรง (สัจจบารมี) อดทน (วิริยบารมี) ตั้งใจมั่น (อธิษฐานบารมี) ฟังธรรมะให้เข้าใจความจริงตามปกติ ทำให้ค่อยๆ ละเหตุของความทุกข์ เหตุที่ให้เข้าใจนั้นมี ไม่ต้องไปทำอะไรซึ่งทำไม่ได้ เพราะเกิดแล้วรู้ตามความจริงว่า ปัญญาที่จะดับกิเลสต้องรู้ธรรมะเดี๋ยวนี้!!! ไม่ใช่เราละ ไม่สามารถรู้ความจริงเองได้ ต้องฟังคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไตร่ตรอง ไม่เผิน เริ่มรู้จักพระองค์ ความเข้าใจติดตามสะสมไป
หนทางนี้ หนทางเดียว ฟังเพื่อเข้าใจในความลึกซึ้งของธรรมะ เพื่อละความไม่รู้ เพื่อละความเป็นเรา และละกิเลสอกุศล
กิเลสเกิดเพราะความไม่รู้ เมื่อรู้จึงค่อยๆ ละความไม่รู้
เมื่อไหร่ที่มีความเข้าใจถูกต้อง นั่นคือหนทางที่จะค่อยๆ นำไปสู่การประจักษ์แจ้งอริยสัจจธรรมทั้ง 4 ที่ถูกปกปิดด้วยความไม่รู้มากมายมานานในสังสารวัฏฏ์ หนทางเดียว คือศึกษาพระธรรม เป็นประโยชน์สูงสุดในชีวิต
ดีเท่าไหร่ ดีจริงหรือเปล่า!!! เมื่อเป็นเรา!!!!!
ไม่รู้จักกิเลส แต่อยากละกิเลส ... ด้วยความไม่รู้
กราบนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณภาพจาก คุณนภา จันทรางศุ ขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ