อีกอย่างที่มีข้อความนี้ใน กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เคยยึดถือกายทั้งหมดว่า
เป็นเราตับ ปอด หัวใจ ม้าม ว่าเป็นของเรา หรือเรามี จนกระทั่งลมหายใจก็เป็นเรา,
เราหายใจเข้าเราหายใจออก แต่ความจริงใช้คำว่า หายใจ แต่เป็นรูปที่ปรากฎที่เกิด
ขึ้น ดับไป เมื่อไรเมื่อนั้น จึงจะรู้ว่าเหมือนกันหมด ไม่ได้ต่างกันเลย ไม่ว่าจะปรากฎ
ช่องจมูก ปรากฎที่ส่วนหนึ่งส่วนใดของกาย เพื่อละความไม่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ไม่มี
ตัวเราเลย มีแต่สภาพธรรมที่ปรากฏ แต่กว่าจะหมดความจำว่า " มีเรา " ตั้งแต่ศีรษะ
ตลอดเท้า ก็ต่อเมื่อสภาพธรรมปรากฎ จนกระทั่งปัญญาจะประจักษ์แจ้งความจริง
ปัญญารู้หรือตัวตนรู้ ปัญญาเกิดหรือเปล่า? ไม่ได้เกิดแล้วเอาตัวตนไปรู้ จะถูกหรือ
จะผิด ละความไม่รู้ไปเรื่อยๆ ผู้ที่ไม่ได้ฟังเลย ความไม่รู้จะมากสักแค่ไหน อย่างที่
เคยกล่าวถึงข้อความที่ว่า " มีอวิชชา " ความไม่รู้กำลังกั้นเหมือนลิ่มสลัก ไม่ให้เห็น
ความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ สภาพธรรมจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ไม่ได้
เลย ปรากฎอย่างนี้แหละ ไม่ว่าเมื่อไรเกิดขึ้น สิ่งที่ปรากฎทางตาก็เป็นอย่างนี้ กี่ภพ
กี่ชาติในอดีต หรือต่อไปในกาลข้างหน้าก็ไม่เปลี่ยน
จาก สนทนาเรื่องการปฏิบัติธรรม เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐
ผู้มีความรู้ในทางชั่ว เป็นผู้เสืื่อม
ผู้มีความรู้ในทางที่ดี เป็นผู้เจริญ
อนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย