พึ่งบวชพระไม่นาน ฉันข้าวมื้อเดียว มีความตั้งใจจะมาผ่อนปรนจิตใจสักระยะ แต่เจอประเด็นคือวัดป่าแมลงเยอะมาก ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน กุฎิอยู่ใกล้รังผึ้งกับรังแตน เคยเก็บจีวรที่ผึ่งไว้ละโดนผึ้งต่อย ฉันเช้าเจอแมลงหวี่ตอมตา (รู้สึกน่ารำคาญมาก) หยิบร่ม หยิบไม้กวาด เจอรังมดข้างใน ถ้าเดินไม่ระวังพื้นมีสิทธิโดนมดกัดได้ง่ายๆ แมงมุม (ตัวใหญ่) กับยุงก็มีอยู่ทุกที่ ประกอบกับหน้าฝนด้วย โดนมดบุกกุฏิ แถมมีแตนแอบเข้ามาทำรังในห้องด้วย เครียดหนักกว่าเดิมอีก เดิมก็ไม่ชอบมด-แมลงอยู่แล้ว เพราะเป็นสัตว์ที่รุกร่ำที่คนอื่นไปทั่วและไล่ยาก จึงรู้สึกน่ารำคาญ พยายามคงศีลไว้ แต่ก็มีฆ่าสัตว์อยู่ทุกวัน ไม่เข้าใจตรรกะของพระวัดป่าเลยว่า "ทำไมถึงยังถือศีลอยู่ได้" รู้อยู่ว่าไม่ใช่พระป่าทุกองค์ที่สามารถทำได้ แต่ก็คงมีบางองค์ที่สามารถทำได้เช่นกัน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระภิกษุ เป็นเพศที่สูงยิ่ง เมื่อสละชีวิตของความเป็นคฤหัสถ์แล้ว ย่อมหมายความว่าพร้อมที่จะศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสในเพศที่สูงยิ่ง ไม่ล่วงละเมิดสิกขาบทที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงบัญญัติไว้ แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต ไม่มีเหตุอื่นหรือข้ออ้างมาเพื่อที่จะล่วงละเมิดพระวินัยบัญญัติ เพราะการที่พระภิกษุมีความจงใจที่จะฆ่าสัตว์ดิรัจฉาน พระภิกษุ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ประเภทใดก็ตาม เช่น มด ยุง แมลงต่างๆ เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ตามข้อความในพระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ทุติยภาค เล่ม ๒ - หน้าที่ ๖๘๒ สัปปาณวรรค สิกขาบทที่ ๑ ว่า “อนึ่ง ภิกษุใด จงใจพรากสัตว์จากชีวิต เป็นปาจิตตีย์” ซึ่งเป็นการผิดพระวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ และเป็นอกุศลกรรมบถ ด้วย สามารถนำเกิดในอบายภูมิได้ ด้วย จะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้โดยประการทั้งปวง ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขอน้อมรับคำแนะนำ และยินดีที่จะนำไปปรับปรุงครับ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาในกุศลค่ะ