ปาปวรรค ที่ ๙ ว่าด้วยบุญและบาป
โดย บ้านธัมมะ  25 ก.ค. 2564
หัวข้อหมายเลข 34883

[เล่มที่ 42] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 1

ปาปวรรค ที่ ๙

ว่าด้วยบุญและบาป


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 42]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 1

พระสุตตันตปิฎก

ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท

เล่มที่ ๑ ภาคที่ ๒

ตอนที่ ๓

คาถาธรรมบท

ปาปวรรค๑ที่ ๙

ว่าด้วยบุญและบาป

[๑๙] ๑. บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี พึงห้ามจิต เสียจากบาป เพราะว่าเมื่อบุคคลทำความดีช้าอยู่ ใจจะยินดีในบาป.

๒. ถ้าบุรุษพึงทำบาปไซร้ ไม่ควรทำบาปนั้น บ่อยๆ ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น เพราะว่า ความสั่งสมเป็นเหตุให้เกิดทุกข์.

๓. ถ้าบุรุษพึงทำบุญไซร้ พึงทำบุญนั้นบ่อยๆ พึงทำความพอใจในบุญนั้น เพราะว่าความสั่งสมบุญ ทำให้เกิดสุข.


๑. วรรคนี้มีอรรถกถา ๑๒ เรื่อง.


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 2

๔. แม้คนผู้ทำบุญ ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอด กาลที่บาปยังไม่เผล็ดผล แต่เมื่อใดบาปเผล็ดผล เมื่อนั้นเขาย่อมเห็นบาปว่าชั่ว ฝ่ายคนทำกรรมดี ย่อม เห็นกรรมดีว่าชั่ว ตลอดกาลที่กรรมดียังไม่เผล็ดผล แต่เมื่อใดกรรมดีเผล็ดผล เมื่อนั้นเขาย่อมเห็นกรรม ดีว่าดี.

๕. บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า บาปมีประมาณ น้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ตก ลง (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ชนพาลเมื่อสั่งสมบาป แม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบาปได้ฉันนั้น.

๖. บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า บุญมีประมาณ น้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำที่ ตกลงมา (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ธีรชน (ชนผู้มี ปัญญา) สั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญ ได้ฉันนั้น.

๗. บุคคลพึงเว้นกรรมชั่วทั้งหลายเสีย เหมือน พ่อค้ามีทรัพย์มาก มีพวกน้อย เว้นทางอันพึงกลัว (และ) เหมือนผู้ต้องการจะเป็นอยู่ เว้นยาพิษเสีย ฉะนั้น.

๘. ถ้าแผลไม่พึงมีในฝ่ามือไซร้ บุคคลพึงนำยา พิษไปด้วยฝ่ามือได้ เพราะยาพิษย่อมไม่ซึมเข้าไปสู่


ความคิดเห็น 3    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 25 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า 3

ฝ่ามือที่ไม่มีแผล ฉันใด บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำอยู่ ฉันนั้น.

๙. ผู้ใด ประทุษร้ายต่อนรชนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสดุจเนิน บาปย่อมกลับถึงผู้นั้น ซึ่งเป็นคนพาลนั่นเอง เหมือนธุลีอันละเอียดที่เขาซัด ทวนลมไปฉะนั้น.

๑๐. ชนทั้งหลายบางพวก ย่อมเข้าถึงครรภ์ ผู้มี กรรมลามก ย่อมเข้าถึงนรก ผู้มีกรรมเป็นเหตุแห่ง สุคติ ย่อมไปสวรรค์ ผู้ไม่มีอาสวะย่อมปรินิพพาน.

๑๑. บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้ หนีไปแล้วในอากาศ ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ หนีเข้าไปสู่ซอก ภูเขา ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ (เพราะ) เขาอยู่ แล้วในประเทศแห่งแผ่นดินใด พึงพ้นจากกรรมชั่ว ได้ ประเทศแห่งแผ่นดินนั้น หามีอยู่ไม่.

๑๒. บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้ หนีไปแล้วในอากาศ ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ หนีเข้าไปสู่ซอก ภูเขา ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้ (เพราะ) เขาอยู่ แล้วในประเทศแห่งแผ่นดินใด ความตายพึงครอบงำ ไม่ได้ ประเทศแห่งแผ่นดินนั้น หามีอยู่ไม่.

จบปาปวรรคที่ ๙