....โรค ๘ อย่าง....
โดย pannipa.v  13 ก.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 9854

โรค ๘ อย่าง คือ

อาพาธ.. มีน้ำดี (กำเริบ) ๑

อาพาธ.. มีเสมหะ เป็นสมุฏฐาน ๑

อาพาธ.. มีลม เป็นสมุฏฐาน ๑

อาพาธ.. ที่เกิดจากโรคดี โรคเสมหะ มาประชุมกัน ๑

อาพาธ.. ที่เกิดจาก เปลี่ยนฤดู ๑

อาพาธ... ที่เกิดจาก การบริหาร (ร่างกาย) ไม่ถูกต้อง ๑

อาพาธ.. ที่เกิดจาก การพยายาม ๑

อาพาธ.. ที่เกิดจาก วิบากกรรม ๑

ในโรคทั้ง ๘ อย่างนั้น

"มิจฉาทิฏฐิบุคคล" ปฏิเสธโรค ๗ อย่างข้างต้นแล้วยอมรับแต่เฉพาะ โรคที่ ๘ เท่านั้น

ขอเรียนถามว่า หมายถึงอย่างไร? และ โรคที่เกิดจาก กิเลสกลุ้มรุมคือ โรค ที่ ๘ ใช่หรือไม่ เพราะเป็นโรคนี้มานาน ทุรนทุราย นับชาติไม่ถ้วน



ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 14 ก.ย. 2551

ในบางแห่ง พระพุทธองค์ทรงแสดงโรคทางกายอย่างเดียว ในบางแห่งทรงแสดง โรคทางใจอย่างเดียว ในบางแห่งทรงแสดงโรคทางกายและโรคทางใจ แต่ข้อความจากอรรถกถาที่ท่านยกมาเป็นการกล่าวถึงโรคทางกาย ซึ่งพวกเดียรถีย์บางพวกมีความ เห็นผิดว่าโรคภัยไข้เจ็บทั้งหมดเกิดจากกรรมเก่าเพียงอย่างเดียว ดังข้อความบางตอนจาก ติตถสูตรว่า...

[๕๐๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ลัทธิของเดียรถีย์ ๓ นี้ ซึ่งบัณฑิตทั้งหลายซักไซ้ไล่เลียงสืบไป (เท่าไรๆ ) ก็คงยืนตัวอยู่ใน หลักอกิริยา ลัทธิของเดียรถีย์ ๓ คืออะไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งมีวาทะอย่างนี้ มีทิฏฐิอย่างนี้ว่า บุคคลได้รับสุขหรือทุกข์ หรือไม่ทุกข์ไม่สุข อย่างใดอย่างหนึ่ง ได้รับเพราะกรรมที่ทำไว้ในปางก่อนทั้งสิ้นเป็นเหตุ ดังนั้นโรคกิเลสกลุ้มรุม เป็นโรคทางใจ ซึ่งสัตว์ทั้งหลายถูกโรค คือกิเลสกลุ้มรุมอยู่ตลอดกาลนาน


ความคิดเห็น 2    โดย paderm  วันที่ 14 ก.ย. 2551
ขออนุโมทนาครับ

ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 14 ก.ย. 2551

โรคหรือโรคะ หมายถึง สภาพที่เสียดแทง โรคทางกาย เสียดแทงกายให้ได้รับความเจ็บปวด ทรมาน แต่โรคทางใจคือ กิเลส ซึ่งเป็นสภาพที่ทำให้จิตเศร้าหมอง ย่อมเสียดแทงจิตใจของสัตว์ทั้งหลายให้เร่าร้อนและไม่ให้ออกไปจากวัฏฏะ "สัตว์ทั้งหลายผู้ยืนยันว่าไม่มีโรคทางกายตลอดเวลา ๑ ปีก็มี ยืนยันว่าไม่มีโรคทางกายตลอดเวลา ๒ ปีก็มี ๓ ปี ก็มี ๔ ปีก็มี ๕ ปีก็มี ๑๐ ปีก็มี ๒๐ ปีก็มี ๓๐ ปีก็มี ๔๐ ปีก็มี ๕๐ ปีก็มี ๑๐๐ ปีก็มี ยิ่งกว่า ๑๐๐ ปีก็มี แต่ว่าผู้ที่จะยืนยันว่าไม่มีโรคทางใจแม้เพียงเวลาครู่เดียวนั้น หาได้ยากในโลก เว้นแต่พระขีณาสพ (ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว) " อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต โรคสูตร

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 4    โดย ปริศนา  วันที่ 14 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย suwit02  วันที่ 14 ก.ย. 2551

ขอเสริมความเห็นที่ 1 โดยการนำเนื้อความในอรรถกถา ตอนต่อจากที่ท่าน เจ้าของกระทู้แสดงไว้ มาแสดงต่อให้ครบครับ

[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๒๘๗

ในบรรดากองแห่งกรรม ๓ ชนิด ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ คือทิฏฐธรรมเวทนียกรรม (กรรมให้ผลในภพปัจจุบัน) ๑ อุปปัชชเวทนียกรรม (กรรมให้ผลในภพถัดไป) ๑ อปรปริยายเวทนียกรรม (กรรมให้ผลในภพต่อๆ ไป) ๑ มิจฉาทิฏฐิกบุคคลปฏิเสธกรรม ๒ ชนิด (ข้างต้น) ยอมรับแต่เฉพาะอปรปริยายเวทนียกรรม อย่างเดียวเท่านั้น. แม้ในกองวิบาก ๓ ชนิด ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ คือ ทิฏฐธรรมเวทนียวิบาก (วิบากของกรรม ที่ให้ผลในปัจจุบัน) ๑ อุปปัชชเวทนียวิบาก (วิบากของกรรมที่ให้ผลในภพ ถัดไป) ๑ อปรปริยายเวทนียวิบาก (วิบากของกรรมที่ให้ผลในภพต่อๆ ไป) ๑. มิจฉาทิฏฐิกบุคคลปฏิเสธวิบาก ๒ อย่าง (ข้างต้น) ยอมรับแต่เฉพาะอปรปริยายวิบาก อย่างเดียวเท่านั้น.

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย opanayigo  วันที่ 14 ก.ย. 2551

เหมือนตกอยู่ในวงล้อม ทั้งทางกายและทางใจ

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย เมตตา  วันที่ 15 ก.ย. 2551

ขอเรียนถามท่านอาจารย์วิทยากรว่า โรค ๗ อย่างนั้นจัดเป็นโรคทางกายอย่างเดียว ใช่ไหมคะ และโรค ๗ อย่างข้างต้น เช่น อาพาธเพราะลมเป็นสมุฎฐานซึ่งทำให้ ทุกข์กายมาก อาพาธลักษณะนี้ไม่เกิดจากกรรมเป็นสมุฎฐานเลยหรือคะ และอาพาธ....ที่เกิดจาก การพยายาม ๑ หมายความว่าอย่างไรคะ

และอาพาธอย่างที่ ๘ ที่เกิดจากวิบากกรรมนั้นเป็นอาพาธทางกายและใจ ด้วยใช่ไหมคะ จากคำถามของคุณ pannipa .v ที่กล่าวว่ากิเลสที่กลุ้มรุม อยู่นั้นเป็นอาพาธอย่างที่ ๘ ซึ่งเกิดจากวิบากกรรมจะถูกต้องไหมคะ

ขอขอบพระคุณค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย prachern.s  วันที่ 16 ก.ย. 2551

ในสูตรนี้แสดงโรคทั้ง ๘ อย่างที่เป็นทางกาย อาพาธที่เกิดจากการพยายาม ได้แก่ ความเจ็บป่วยที่เกิดจากการกระทำของตนหรือของผู้อื่น เช่น ทำร้ายตนเอง ผู้อื่นทำร้าย เป็นต้น ส่วนอาพาธที่ ๘ หมายถึงโรคภัยทางร่างกายที่เกิดจาก อกุศลกรรมที่ตนเคยทำไว้ ตัวอย่างเช่น พระที่มีร่างกายเน่าทั้งตัว เป็นต้น


ความคิดเห็น 9    โดย pornpaon  วันที่ 16 ก.ย. 2551

งงข้อ ๗ และสงสัยข้อ ๘ เหมือนกัน

ขอบพระคุณ อ.ประเชิญ สำหรับคำตอบที่ชัดเจนค่ะ

ขออนุโมทนาทั้งท่านผู้ถามและท่านผู้ตอบ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตและกุศลวิริยะของทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย wannee.s  วันที่ 16 ก.ย. 2551

ท่านพระพากุละ ท่านไม่มีโรค ท่านไม่เคยเจ็บป่วยลย และท่านเป็นผู้มีอายุยืน 160 ปี ท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านไม่มีโรคทางกายและไม่มีโรคทางใจจึงเป็นลาภอันประเสริฐค่ะ


ความคิดเห็น 11    โดย เมตตา  วันที่ 17 ก.ย. 2551

ขออนุโมทนาและขอบพระคุณในกุศลจิตท่านอาจารย์ prachern.s ค่ะ

และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ