ปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสังคมของประเทศใดก็ตาม ก็เพราะกิเลสที่เป็นตัวหลักได้แก่โลภะ โทสะ และโมหะ ซึ่งเกิดขึ้นตามการสั่งสมมาของแต่ละบุคคล ทุกคนมีอัธยาศัย มีอุปนิสัยที่แตกต่างกัน เพราะเหตุว่าได้สั่งสมมาทั้งกุศลและได้สั่งสมมาทั้งอกุศลอย่างหนาแน่นและเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ พฤติกรรมที่แสดงออกมาจึงมีทั้งดีและไม่ดี และไม่เหมือนกันด้วย
การที่ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเบียนกัน การทำร้ายกัน การคดโกงไม่ซื่อตรงต่อกัน จะค่อยๆ หมดไปได้ ถ้าหากว่าแต่ละบุคคลได้ศึกษาธรรม ได้อบรมเจริญปัญญาขณะนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ เมื่อนั้นกิเลสก็จะน้อยลงและปัญหาทั้งหลายก็จะน้อยลงด้วย
บุคคลหนึ่งๆ เป็นแบบอย่างทีดีให้กับบุคคลหนึ่งๆ เมื่อแต่ละบุคคลเห็นว่าความดีเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ควรเจริญ ก็จะประพฤติปฏิบัติตาม โดยไม่ต้องสั่ง ไม่ต้องบังคับ ถ้าต่างคนต่างเป็นอย่างนี้ ต่อๆ กันไป เรื่อยๆ ก็จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้สังคมแต่ละสังคมน่าอยู่ขึ้น
สังคม...เกิดจากการนับรวมบุคคลจำนวนมากหลากหลายอุปนิสัยที่มาอยู่ร่วมกัน หากแต่ละบุคคลเป็นผู้ไม่ละเลยและคอยระวังในกิเลสอกุศลของตนเอง บุคคลเหล่านั้นก็จะไม่เบียดเบียนกันและกัน ... และสังคมนั้นย่อมน่าอยู่
ขออนุโมทนาค่ะ
การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ พึงทำความดีและเป็นผู้เสียสละ ปัญหาสังคมก็จะลดลงค่ะ
เมื่อเข้าใจพระธรรมมากขึ้น กิเลสก็น้อยลง ความเป็นมิตรก็มากขึ้น ปัญหาสังคมก็น้อยลงตามไปด้วยครับ
อนุโมทนาครับ
ละกิเลสของตนเองก่อน ช่วยสังคมได้ค่ะ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ