ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สนทนาปัญหาธรรม 26 ก.ย. 66

ยากที่จะรู้ยากที่จะรู้ว่า ... ไม่ใช่เรา

เป็นสิ่งที่ยากละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่งก่อนจะมาพบท่านอาจารย์ไม่เคยได้ยินว่า ธรรมะคืออะไร สิ่งที่มีจริงไม่ใช่เรา พอได้ฟังพระธรรมที่ท่านอาจารย์สนทนา เริ่มได้ยินได้ฟังคำว่าสิ่งที่มีไม่ใช่เรา แต่ก็ยากอย่างยิ่งยากเหลือเกินที่จะเข้าใจว่า สิ่งที่มีไม่ใช่เรา

ทุกขณะไม่ใช่เรา แต่ก็ยากที่จะเข้าใจว่า ไม่ใช่เรา เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ถ้าไม่คิดอย่างนี้ไม่มีทางรู้จักพระธรรมและจะไม่รู้จักพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเหตุว่า เดี๋ยวนี้อะไรเป็นอะไรก็ไม่รู้ เข้าใจว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่ต้องฟังคำที่พระองค์ทรงตรัสรู้และพิจารณาไตร่ตรอง เห็นความยากยิ่งขึ้นนั่นคือปัญญา

ไม่มีเรา ... ไม่ใช่เรา แล้วสิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้เป็นอะไร!! ถ้ายังไม่รู้ ... ไม่ใช่เรา แต่เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดเสมอมองไปก็เห็นหลอดไฟ เห็นประตู เห็นเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ... ไม่ใช่ ... ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยทั้งสิ้น แต่เป็นสิ่งที่กระทบตา และมีธาตุรู้เกิดขึ้นเห็นสิ่งนี้จึงปรากฏ ... แค่เห็น ... ยากที่จะรู้ว่าสิ่งที่กำลังปรากฏเป็นเพียงแค่เห็นสิ่งที่ปรากฏเท่านั้น

เห็นสิ่งที่ปรากฏเท่านั้นไม่ใช่เห็นประตูหรือหน้าต่างต้องฟังด้วยความละเอียดและไตร่ตรองด้วยความตรงด้วยการเข้าถึงความหมายของคำว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อตรัสรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ... ไม่ใช่ให้ไปรู้อื่นเลยทั้งสิ้น

เลิกคิดหวังที่จะไปทำอะไรที่จะรู้เพราะเหตุว่าสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ไม่รู้ แล้วใครไปทำอะไรให้รู้อะไร ... ในเมื่อสิ่งนั้นยังไม่มี ... ต้องฟังด้วยความอดทน ... แค่นี้ลึกซึ้งไหม!!!

ค่อยๆ เห็นความลึกซึ้ง จึงเริ่มรู้จักพระพุทธศาสนา เริ่มรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้คุณค่าของการที่มีโอกาสเกิดมาได้ฟังคำ ซึ่งจะไม่ได้ยินจากที่ไหนเลย นอกจากคำที่พระองค์ผู้ทรงตรัสรู้แล้ว และทรงพระมหากรุณาให้คนอื่นได้รู้ความลึกซึ้ง ซึ่งกว่าพระองค์จะทรงตรัสรู้ธรรมที่ทรงแสดงความจริงว่าความจริงเป็นอย่างนี้ ทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อละความไม่รู้ ละความติดข้องว่า สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นโต๊ะ เก้าอี้ สิ่งนั้นสิ่งนี้ ไม่ได้รู้ความจริงว่า ถ้าไม่เห็นสิ่งนี้ที่ปรากฏจะไม่ปรากฏเลย

แต่สิ่งที่ปรากฏไม่ได้ปรากฏด้วยความเป็นประตู หน้าต่าง หรืออะไรเลย เป็นเพียงสิ่งที่กระทบตา จึงสามารถที่จะมีธาตุรู้เกิดขึ้นเห็นว่าลักษณะจริงๆ มีลักษณะที่ปรากฏให้เห็น เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นเท่านั้น

ฟังเพื่อละความคิดที่ว่าธรรมะง่าย แต่ธรรมะลึกซึ้ง จะไปรู้อะไรก็ไม่รู้ แต่ก็พยายามจะไปรู้ เพราะไม่ได้ฟังคำของพระองค์โดยละเอียด โดยเคารพโดยความเป็นจริง โดยรู้ความลึกซึ้งโดยการรู้ว่ายากแสนยาก ที่จะทำให้สิ่งที่กำลังปรากฏไม่เป็นคุณอรรณพ ไม่เป็นคุณคำปั่น ไม่เป็นใครเลยทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่เพียงปรากฏ!!!

ความจริงต้องไตร่ตรองจนกระทั่งมั่นคงขึ้น ... ตลอดชีวิตไม่ใช่ให้ไปทำอะไร ให้ไปรู้อะไร แต่ฟังคำที่พระองค์ตรัสถึงสิ่งที่มีจริงๆ ทุกขณะ คือเดี๋ยวนี้กำลังเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏ

... ไม่มีคำพูดอื่นนอกจากนี้ ... กี่ครั้งๆ ก็ต้องเป็นอย่างนี้ เพราะไม่สามารถรู้ว่า สิ่งที่กำลังปรากฏเป็นเพียงสิ่งที่เพียงเห็น ถ้าเห็นไม่เกิด ... สิ่งนี้ไม่มีไม่ปรากฏ เพราะฉะนั้น เห็นเกิดขึ้นเพียงเห็นสิ่งที่ปรากฏเมื่อกระทบตา ... แล้วจะเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้อย่างไร!!!!!

คนที่จะรู้จักพระองค์ต้องรู้ว่าพระองค์ทรงตรัสรู้อะไรที่เป็นความจริงถึงที่สุด เปลี่ยนไม่ได้ พระองค์ตรัสว่า ธรรมะทั้งหลายคือสิ่งที่มีจริงทั้งหมด ที่ปรากฏว่ามีจริงเป็นอนัตตา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่ใครทั้งสิ้น แต่เป็นธรรมะแต่ละหนึ่ง ซึ่งปรากฏไม่ได้ถ้าไม่มีจิตเห็น ... ธาตุรู้ที่เกิดขึ้นเห็น

ค่อยๆ ฟังไป แต่ละชาติแต่ละชาติแต่ละชาติ เพราะว่าความไม่รู้ในสิ่งที่ปรากฏตั้งแต่เกิดจนตายมากแค่ไหนกว่าจะรู้จริงๆ ได้ ... อีกนานเท่าไหร่ ... เป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการฟังพระธรรม เพื่อค่อยๆ เห็นความละเอียดลึกซึ้ง และความจริงจากที่พระองค์ได้ทรงแสดงไว้ มิฉะนั้นจะรู้อย่างที่พระองค์ทรงตรัสรู้ไม่ได้

กว่าจะรู้จริงในขณะนี้ และทุกขณะในชีวิต ถ้ายังไม่รู้ความจริงอย่างนี้ ก็ละความไม่รู้ไม่ได้ ละความเป็นเรารู้ไม่ได้ ละความเป็นเราทั้งหมดตลอดชาติไม่ได้!!!!!

เชิญคลิกชม

สนทนาปัญหาธรรม โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะอาจารย์ มศพ. วันอังคารที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 10.00 - 11.30 น.

Facebook​ Page : วิทยุออนไลน์​บ้านธัมมะ
fb.watch/ni0DjyhZm_/?mibextid=NnVzG8

Facebook Group : ชมรมบ้านธัมมะ
fb.watch/ni0IzivSiQ/?mibextid=NnVzG8

YouTube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
www.youtube.com/live/C_WZFlzKNlA?si=UGvPyB1YKdBf0YoE

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

ขอถวายความนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

" ... การสามารถรู้ลักษณะจริงๆ ของสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้ โดยไม่คิด แต่เริ่มเข้าใจความจริงขึ้นว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ ยังไม่ต้องกล่าวถึงการรู้ชัดเลย

นี่คือพระมหากรุณาที่ทรงบัญญัติคำที่ส่องถึงลักษณะของสภาพธรรมโดยลักษณะของสภาพธรรมอย่างยิ่ง แม้แต่คำว่า สัจญาณ กิจญาณ กตญาณ หรือปริยัติ ปฏิปัตติ ปฏิเวธ เพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลกไม่ให้เข้าใจผิด เห็นผิด หรือกล่าวตู่พระองค์ว่า ไม่รู้อย่างนี้ ไม่เข้าใจอย่างนี้ก็สามารถถึงนิพพานได้ อันนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใจสภาพธรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่กำลังปรากฏ หรือแม้แต่ลักษณะของนิพพาน ... "
ส่วนหนึ่งจากเสียงสนทนาธรรม ...

เพียงสิ่งที่ปรากฏ

น้อมกราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง

กราบขอบพระคุณยินดีทุกท่านในธรรมทานด้วยค่ะ

ยินดีในกุศลจิตครับ

ยินดีในกุศลจิตค่ะ