* เมื่อพระโพธิสัตว์ (ผู้ข้องอยู่ในการบำเพ็ญเพื่อบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ) ในพระชาติสุดท้าย คือเจ้าชายสิทธัตถะ ได้ทรงผนวช และได้ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ (พระปัญญาที่ทรงตรัสรู้ความจริงโดยชอบด้วยพระองค์เอง และเป็นที่พึ่งแก่สัตว์โลก) แล้ว ก็ไม่ใช่เจ้าชายสิทธัตถะ และพระโพธิสัตว์อีกต่อไป แต่ทรงเป็น "พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า"

* พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระคุณนาม คือพระนามตามพระคุณทั้งสามของพระองค์คือ

- พระปัญญาคุณ คือทรงตรัสรู้ความจริงโดยชอบด้วยพระองค์เอง

- พระบริสุทธิคุณ คือทรงดับกิเลสได้หมดสิ้นเป็นพระอรหันต์

- พระมหากรุณาคุณ คือทรงจำแนก แสดงพระธรรม โดยนัยประการต่างๆ เพื่อพุทธบริษัทจะได้ฟัง ได้ศึกษา เพื่ออบรมเจริญปัญญารู้ความจริงตามที่ทรงแสดง

* ดังนั้น จึงมีเพียงพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เดียวเท่านั้น ที่จะมีพระนามตามพระคุณอันประเสริฐสูงสุดนี้ได้

* ด้วยเหตุนี้ ในอนันตจักรวาล จึงมีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ในกาลแห่งพระศาสนาหนึ่งๆ

* จึงเป็นโอกาสที่ประเสริฐสุด ที่ได้เกิดมาในกาลที่ยังมีพระธรรมคำสอนของพระองค์ ให้ได้ฟัง ได้ศึกษา เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง ที่เราคิดเองไม่ได้เลย

โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์

อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม

ขออนุโมทนาครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ