กิเลสทั้งหลายจะหมดไปได้ด้วยปัญญา
เมื่อไหร่ปัญญาที่เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจะเข้าใจในความเป็นธรรมะตามปกติตามความเป็นจริง ท่ามกลางอกุศลมากมายที่สะสมมานานในสังสารวัฏฏ์
เดี๋ยวนี้เป็นธรรมะ ถ้าไม่ได้ฟังธรรม ทุกขณะก็ผ่านไปด้วยความไม่รู้ เดี๋ยวนี้เป็นธรรมะ ไม่ต้องไปแสวงหา เกิดมาก็เป็นธรรมะ ตั้งแต่เกิดจนตายทุกขณะเป็นธรรมะ จะรู้ไม่ใช่ไปรู้ที่อื่น แต่รู้ธรรมะที่กำลังปรากฏขณะนี้
ใครรู้ว่าขณะนี้เห็นกำลังเกิดดับ เป็นธรรมะไม่ใช่เรา เป็นธรรมะแต่ละหนึ่งไม่ปนกันเลย ฟังและค่อยๆ เข้าใจขึ้น ละเอียดขึ้น มิเช่นนั้นไม่สามารถละความเป็นเราได้
" ทำสติ เจริญสติ ... " พูดแต่คำที่ไม่รู้จักตั้งแต่เกิดจนตาย จนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ความรู้ความเข้าใจต้องตามลำดับ ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ละเอียดขึ้น ค่อยๆ เกิดความเข้าใจที่มั่นคงเป็นปัญญา (ตามลำดับ) ของตนเอง ทำให้รู้จักพระสัมมาสัทพุทธเจ้า เมื่อเข้าใจคำของพระองค์ นี่คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่ใช่จะกล่าวคำนี้ไม่ได้เลย โดยละเอียด โดยประการทั้งปวง โดยไม่มีใครเปรียบได้ เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระพุทธพจน์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมะเป็นอันมาก จนผู้ฟังสามารถเข้าใจขึ้น มั่นคงขึ้น ตั้งแต่ขั้นการฟังจนสามารถประจักษ์แจ้ง ถ้าไม่ได้ฟังธรรม จะไม่มีวันรู้
ธรรมะแค่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เป็นแล้วก็ดับ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เราไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ฟังแล้วเข้าใจ แล้วก็ลืม เพราะตัวธรรมะยังไม่ปรากฏกับปัญญา ความละเอียดลึกซึ้งไม่ใช่แค่ขั้นฟัง แต่ต้องไตร่ตรองและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่มีจริงเป็นสิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ทรงประจักษ์แจ้ง" ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา"
ไม่ประมาทเลยว่าเข้าใจก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ฟังธรรมแล้วเรารู้ ไม่ใช่ฟังธรรมแล้วสติจะเกิด ทุกอย่างเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา มีธรรมะแล้วไม่รู้ว่าเป็นธรรมะ จึงฟังจนค่อยๆ เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธรรมะไม่ใช่เรา ไม่ใช่เราตั้งใจไปทำอะไร ไปทำสติ เป็นอัตตา โลภะมีมาก แต่เป็นความเข้าใจถูกต้องว่าขณะนี้ไม่ใช่เรา เป็นธรรมะ เกิดขึ้นจึงมี ไม่ใช่ตั้งใจไปทำให้มี อย่างไหนเป็นปัญญา??
เพราะไม่รู้จึงมีเรา ฟังเพื่อให้รู้ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิด เป็นอนัตตา ไม่มีใครทำให้เกิดขึ้นได้ ตั้งอยู่ไม่นานก็ดับไป เกิดแล้วดับแล้ว ไม่มีใครทำให้สติ ปัญญาเกิดได้ ไม่เคยรู้เท่าทันโลภะเลย โลภะพาออกจากสังสารวัฏฏ์ไม่ได้ ปัญญาเท่านั้นเห็นโลภะ
ธรรมะมีปัจจัยเกิดขึ้นเป็นแล้วก็ไป
มีชีวิตอยู่ ... เพื่อปัญญาปรากฏ
สนทนาธรรมบ้านธัมมะลำพูน ๒๐ ก.พ. ๖๑
กราบบูชาคุณท่านอ. สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณและอนุโมทนาคณะวิทยากร
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ธรรมะแค่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย เป็นแล้วก็ดับ เป็นอนัตตา ไม่ใช่เราไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ฟังแล้วเข้าใจ แล้วก็ลืม เพราะตัวธรรมะยังไม่ปรากฏกับปัญญา ความละเอียดลึกซึ้งไม่ใช่แค่ขั้นฟัง แต่ต้องไตร่ตรองและเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ