วิรตี
โดย papon  29 ม.ค. 2558
หัวข้อหมายเลข 26113

เรียน อาจารย์ทั้งสองท่าน

"วิรตีเจตสิก" ขอความอนุเคราะห์อาจารย์ช่วยกรุณาให้อรรถาธิบายในคำนี้ด้วยครับ

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 29 ม.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ก่อนอื่นก็เข้าใจวิรตีเจตสิกให้ละเอียดก่อนครับว่าคืออะไร

วิรตีเจตสิก วิรตี (การงด การเว้น การวิรัติ) + เจตสิก (สภาพที่เกิดกับจิต) เจตสิกที่ทำให้เกิดการงดเว้นจากบาป หมายถึง โสภณเจตสิก ๓ ดวง คือ สัมมาวาจา ๑ สัมมากัมมันตะ ๑ สัมมาอาชีวะ ๑

๑. สัมมาวาจาเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากวาจาทุจริต ๔

๒. สัมมากัมมันตเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากกายทุจริต ๓

๓. สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นสภาพที่งดเว้นจากอาชีพทุจริต ที่เป็นไปทางวาจา ๔ และทางกาย ๓

วิรตีเจตสิกทั้ง ๓ ดวง นี้ เกิดได้กับจิตเพียง ๑๖ ดวงเท่านั้น คือ เกิดได้กับมหากุศลจิต ๘ ดวง และโลกุตตรจิต ๘ ดวง วิรตีที่เกิดกับมหากุศลจิตจะเกิดได้ทีละดวง ซึ่งเป็นไปในกุศลขั้นศีล เพราะอารมณ์ของวิรตีทั้ง ๓ นั้นต่างกัน จึงเกิดไม่พร้อมกัน ส่วนวิรตีที่เกิดกับโลกุตตรจิตจะต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ ดวง เพราะเป็นองค์ของอธิศีลสิกขา ซึ่งทำกิจประหารกิเลสเป็นสมุจเฉท และเพราะมีอารมณ์คือ พระนิพพาน อย่างเดียวกัน

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ

วิรตีเจตสิกเกิดกับมหากุศล ๘ และโลกุตตรจิต ๘

วิรตีเจตสิก ๓ ดวง

วิรตีเจตสิก

มรรคสมังคี

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 29 ม.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ไม่ว่าจะกล่าวถึงอะไรก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงเลย รวมถึงวิรตีเจตสิก ๓ ประเภทด้วย ก็เป็นธรรมที่มีจริง คือ สัมมาวาจาเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่วิรัติงดเว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ สัมมากัมมันตเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ และประพฤติผิดในกาม และ สัมมาอาชีวเจตสิก เป็นเจตสิกที่ดีงามที่งดเว้นจากวจีทุจริตและกายทุจริตที่เกี่ยวเนื่องด้วยอาชีพ ธรรมเป็นจริงอย่างไรก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไปได้

ถ้าไม่ได้มีการวิรัติงดเว้นอะไร วิรตีเจตสิกแต่ละหนึ่งก็ไม่ได้เกิดขึ้น แต่ถ้าเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดกับมหากุศลหรือเกิดร่วมกับมัคคจิต สภาพธรรมเหล่านี้ก็ไม่เปลี่ยน เป็นเจตสิกแต่ละประเภทๆ เพียงแต่ว่าถ้าเกิดร่วมกับมหากุศลจิต เกิดเพียงวิรตีหนึ่งเท่านั้นจะไม่เกิดพร้อมกัน เนื่องจากอารมณ์ต่างกัน แต่ถ้าเกิดร่วมกับมัคคจิต (และผลจิต) ต้องเกิดพร้อมกันทั้ง ๓ เจตสิก ทำกิจดับกิเลสได้ตามลำดับขั้น และรู้อารมณ์เดียวกันคือพระนิพพาน นอกจากนั้นแล้ว ก็จะต้องเกิดร่วมกับองค์มรรคอื่นๆ อีก ๕ องค์ด้วย คือ สัมมาทิฏฐิ (ปัญญาเจตสิก) สัมมาสังกัปปะ (วิตักกเจตสิก) สัมมาวายามะ (วิริยเจตสิก) สัมมาสติ (สติเจตสิก) สัมมาสมาธิ (เอกัคคตาเจตสิก) รวมเป็นองค์มรรคทั้ง ๘ องค์ที่ประชุมพร้อมกันในขณะที่มัคคจิตและผลจิตเกิดขึ้นครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 29 ม.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย tanrat  วันที่ 30 ม.ค. 2558

กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ


ความคิดเห็น 5    โดย ธุลีพุทธบาท  วันที่ 30 ม.ค. 2558

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาอาจารย์ทั้งสองท่าน ครับ.


ความคิดเห็น 6    โดย j.jim  วันที่ 30 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ปวีร์  วันที่ 30 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย peem  วันที่ 31 ม.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย chatchai.k  วันที่ 16 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Jarunee.A  วันที่ 19 พ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ