ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
แนวทางเจริญวิปัสสนาครั้งที่ ๓๔๒ บรรยายโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ในครั้งก่อน มีบุคคลที่ได้เห็น "คุณค่าของการเป็นมนุษย์"แล้วก็ได้เพียรพยายามที่จะขัดเกลากิเลสแต่ก็มีหลายท่าน ที่แม้ว่าจะได้พากเพียรขัดเกลากิเลส แต่ท่านก็สิ้นชีวิตไปก่อนที่จะได้มีโอกาสฟังพระธรรมจากพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งก็จะขอกล่าวถึงข้อความในขุททกนิกาย สุตตนิบาต นาลกสูตร ซึ่งมีข้อความว่า อสิตฤษี ได้ทราบว่า พระสิทธัตถราชกุมารประสูติแล้ว ก็ได้ไปเฝ้า พิจารณาพระราชกุมารผู้ประเสริฐ มีจิตเลื่อมใส ได้เปล่งถ้อยคำว่า "พระกุมารนี้ ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า สูงสุดกว่าสัตว์สองเท้า"
แล้วได้พยากรณ์ว่า "กุมารนี้ จะทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ จักทรงเห็นพระนิพพาน อันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง"
แต่เมื่ออสิตฤษี ระลึกถึงอายุของตน ที่จะอยู่ต่อไปอีกไม่นาน ก็ต้องสิ้นชีวิตไปเสียก่อนที่จะได้ฟังธรรม จากพระผู้มีพระภาคฯ ท่านก็เสียใจถึงกับน้ำตาตก แต่เมื่อจะอนุเคราะห์หลานของท่าน ท่านก็ได้ให้หลานของท่าน สมาทานในธรรมของพระผู้มีพระภาคฯ แล้วได้สั่งว่า ในกาลข้างหน้า เมื่อได้ทราบว่าพระผู้มีพระภาคฯได้ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ก็ให้หลานของท่าน ไปทูลสอบถามด้วยตนเอง ในสำนักของพระผู้มีพระภาคแล้วจะได้ประพฤติพรหมจรรย์ ในสำนักของพระผู้มีพระภาคฯ
ท่านนาลกดาบส ผู้เป็นหลานของอสิตฤษี ท่านก็เป็นผู้ที่สั่งสมบุญไว้รักษาอินทรีย์ รอคอยการที่จะสดับรับฟังพระธรรมจากพระผู้มีพระภาคฯ อยู่ ต่อมาเมื่อท่านนาลกดาบส ได้ทราบข่าวว่าพระผู้มีพระภาคได้ทรงบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณและได้ทรงประกาศพระธัมมจักรอันประเสริฐแล้ว ท่านก็ได้ไปเฝ้าและกราบทูลว่า "ข้าพระองค์ ได้รู้ตามคำของอสิตฤษีนี้ โดยแท้ เพราะเหตุนั้น ข้าแต่พระโคดม ข้าพระองค์ขอทูลถาม พระองค์ผู้ถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง พระองค์อันข้าพระองค์ทูลถามแล้ว ขอทรงตรัสบอกมุนีและปฏิปทาอันสูงสุดของมุนีแห่งบรรพชิตผู้แสวงหาการเที่ยวไปเพื่อภิกษา แก่ข้าพระองค์เถิด"
ท่านเป็นดาบสมาก่อน แต่ว่ายังไม่ได้ฟังพระธรรมเพราะฉะนั้น ก็ใคร่ที่จะได้ทราบว่า "มุนี" และ "ปฏิปทาอันสูงสุดของมุนีแห่งบรรชิตผู้แสวงหาการเที่ยวไปเพื่อภิกษานั้น"ควรจะปฏิบัติอย่างไร
ซึ่งพระผู้มีพระภาค ตรัสพยากรณ์ว่า "เราจักบัญญัติปฏิปทาของมุนี ที่บุคคลทำได้ยาก ทำให้เกิดความยินดีได้ยากแก่ท่าน เอาเถิด เราจักบอกปฏิปทาของมุนีนั้นแก่ท่าน ท่านจงอุปถัมภ์ตน จงเป็นผู้มั่นคงเถิด พึงกระทำการด่าและการไหว้ในบ้านให้เสมอกัน
พึงรักษาความประทุษร้ายแห่งใจ พึงเป็นผู้สงบไม่มีความเย่อหยิ่งเป็นอารมณ์ อารมณ์ที่สูงต่ำมีอุปมาด้วยเปลวไฟในป่า ย่อมมาสู่ครองจักษุ เป็นต้น เหล่านารีประเล้าประโลมมุนี นารีเหล่านั้น อย่าพึงประเล้าประโลมท่าน มุนีละกามทั้งหลายทั้งที่ดีและไม่ดีแล้ว งดเว้นจากเมถุนธรรมไม่ยินดียินร้ายในสัตว์ทั้งหลายผู้สะดุ้งและมั่นคง พึงกระทำตนให้เป็นอุปมาว่า เราฉันใด สัตว์เหล่านี้ ก็ฉันนั้น ดังนี้แล้วไม่พึงฆ่าเอง ไม่พึงใช้ผู้อื่นให้ฆ่า"
สำหรับฆราวาส ข้อความในขุททกนิกาย เนมิราชชาดก มีว่า ชนเหล่าใด เมื่อยังอยู่ในมนุษยโลก ฆ่า มารดา บิดา หรือ พระอรหันต์ ชื่อว่า ถึงปราชิกในเพศคฤหัสถ์ สำหรับบรรชิตนั้น จะพ้นจากสภาพความเป็นบรรพชิต เมื่อฆ่ามนุษย์ และสำหรับคฤหัสถ์ซึ่งเป็นผู้ที่ขัดเกลากิเลสด้อยกว่าบรรพชิตนั้นเมื่อถึงการฆ่ามารดา บิดา พระอรหันต์ ชื่อว่า เป็นปราชิกของคฤหัสถ์ เพราะเหตุว่า ไม่สามารถจะบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ตามปกติแล้วคฤหัสถ์ก็บรรลุมรรคผลนิพพานได้
สำหรับข้อความที่พระผู้มีพระภาคตรัสกับนาลกดาบสเป็นเรื่องของการปฏิบัติธรรม และการเจริญสติปัฏฐานทั้งสิ้น เช่น ข้อความที่พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า "เราจักบัญญัติปฏิปทาของมุนี ที่บุคคลทำได้ยาก" การฆ่าสัตว์ ทำได้ยากหรือง่าย เพราะฉะนั้น สิ่งที่มุนีทำ เป็นการยากสำหรับคฤหัสถ์เพราะว่าคฤหัสถ็นี้ฆ่าสัตว์ง่ายเหลือเกิน เมื่อมีเหตุปัจจัยมีวัตถุที่จะฆ่าก็ฆ่า ลืมคิดถึงความตระหนกตกใจความกลัวตาย ความรักชีวิตของสัตว์อื่นทั้งหมด ถ้าเปรียบว่า ตัวท่านเองอยู่ในสภาพอย่างนั้น
ถ้าคิดว่า สัตว์อื่นอย่างไร เราก็ฉันนั้น หรือเราอย่างไร สัตว์อื่นก็ฉันนั้น การฆ่าก็มีไม่ได้ แต่เมื่อเป็นเพศของคฤหัสถ์ ก็ต้องมีสิ่งที่จะต้องกระทำ ตามวิสัยกิเลสของคฤหัสถ์เพราะฉะนั้น การที่จะกระทำตามมุนี คือบรรพชิตนั้น บุคคลย่อมทำได้ยาก
ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศล แด่คุณพ่อ คุณแม่ และสรรพสัตว์
สาธุ
อกุศลเป็นโทษ รู้อยู่แก่ใจ แต่จำไม่ขึ้นใจ
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
แต่เมื่อเป็นเพศของคฤหัสถ์ ก็ต้องมีสิ่งที่จะต้องกระทำ ตามวิสัยกิเลสของคฤหัสถ์เพราะฉะนั้น การที่จะกระทำตามมุนี คือบรรพชิตนั้น บุคคลย่อมทำได้ยาก
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ