ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระอภิธรรมปิฎก ธาตุกถา-บุคคลบัญญัติ เล่ม ๓ - หน้าที่ 204
.....................................
[๒๗] ภยูปรตบุคคล บุคคลผู้งดเว้นเพราะกลัว เป็นไฉน?
พระเสขะ ๗ จำพวก และบุคคลปุถุชนผู้มีศีล ชื่อว่า ภยูปรตบุคคล
บุคคลผู้งดเว้นเพราะกลัว พระอรหันต์ ชื่อว่า อภยูปรตบุคคล บุคคล
มิใช่ผู้งดเว้นเพราะกลัว.
อรรถกถาภยูปรตบุคคล
วินิจฉัยในนิเทศแห่งภยูปรตบุคคล. บุคคลใดงดเว้นความชั่วเพราะ
ความกลัว เพราะเหตุนั้น บุคคลนั้นจึงชื่อว่า ภยูปรโต ผู้งดเว้นความชั่ว
เพราะความกลัว. อธิบายว่า ก็พระเสกขบุคคล ๗ พวก กับ ปุถุชนทั้งหลาย
ผู้มีศีล กลัวแล้วย่อมงดเว้นจากบาป คือ ไม่กระทำบาป.
บรรดาพระอริยะและปุถุชนทั้งหลาย ย่อมกลัวภัย ๔ อย่างคือ
๑. ทุคคติภัย
๒. วัฏฏภัย
๓. กิเลสภัย
๔. อุปวาทภัย
ในภัยเหล่านั้น ภัย คือ การไปสู่คติชั่ว ชื่อว่า ทุคคติภัย เพราะอรรถ
ว่า อันบุคคลพึงกลัว. แม้ในภัยทั้ง ๓ ที่เหลือก็มีนัยนี้เหมือนกัน. ในท่านเหล่า
นั้นปุถุชนกลัวทุคคติภัยด้วยคิดว่า ถ้าท่านจักทำบาปไซร้ อบายทั้ง ๔ จักเป็น
เช่นกับงูเหลือม กำลังหิวกระหายอ้าปากคอยท่าอยู่ ท่านเมื่อเสวยทุกข์อยู่
ในอบายเหล่านั้นจักทำอย่างไร? จึงไม่ทำบาป. ก็สังสารวัฏฏ์มีเบื้องต้นและที่สุด
อันรู้มิได้นั่นแหละ ชื่อว่า วัฏฏภัย. อกุศลแม้ทั้งปวง ชื่อว่า กิเลสภัย.
การติเตียน ชื่อว่า อุปวาทภัย.
ปุถุชนกลัวภัยเหล่านั้น ย่อมไม่กระทำบาป แต่พระเสกขะ ๓ จำพวก
คือพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี ทั้ง ๓ นี้ล่วงพ้นจากทุคคติภัย
ได้แล้ว จึงยังกลัวภัยทั้ง ๓ ที่เหลืออยู่ ย่อมไม่การทำบาป. พระเสกขะผู้ตั้งอยู่
ในมรรค ชื่อว่า ผู้งดเว้นจากภัย ด้วยอำนาจแห่งการบรรลุ หรือเพราะความ
เป็นผู้ตัดภัยยังไม่ขาด.
พระขีณาสพ ชื่อว่า อภยูปรตบุคคล ท่านไม่กลัวภัยแม้สักอย่างหนึ่ง
ในภัยทั้ง ๔ เหล่านั้น. จริงอยู่ พระขีณาสพ ท่านตัดภัยได้ขาดแล้ว เพราะ
ฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า "อภยูปรโต" ผู้งดเว้นความชั่วมิใช่
เพราะความกลัวภัย.
ถามว่า ท่านก็ย่อมไม่กลัวแม้แต่ อุปวาทภัย ภัยคือการติเตียนหรือ?
ตอบว่า ไม่กลัว แต่ไม่ควรกล่าวว่า ท่านรักษาอุปวาทภัย ข้อนี้
บัณฑิตพึงเห็นเหมือนพระขีณาสพเถระในบ้านโทณุปปลวาปี เป็นตัวอย่าง.
จบอรรถกถาภยูปรตบุคคล และ อภยูปรตบุคคล
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ คุณหมอ ด้วยครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและอนุโมทนา คุณเผดิม และทุกท่านครับ