ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เรียนขอความละเอียด เกี่ยวกับ ความประพฤติผิดในกาม ลักษณะ อาการ หรือ สภาพธรรม ของ ความประพฤติผิดในกาม และ โทษทัณฑ์ ตามลำดับ หยาบไปละเอียด หรือ น้อยไปหามาก ได้แก่ อะไรบ้าง
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในความอนุเคราะห์ค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การล่วงละเมิดศีลข้อการประพฤติผิดในกาม ที่เป็นกาเมสุมิจฉาจารนั้น ก็เป็น ไปได้ทั้งผู้ที่เป็นชายและผู้ที่เป็นหญิง ซึ่งก็เป็นความเกิดขึ้นเป็นไปของกิเลสที่มี กำลังนั่นเอง โดยปกติก็มีกิเลสเกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวันทั้งความติดข้องบ้าง ความโกรธความขุ่นเคืองใจบ้าง แต่ถ้าสะสมมากขึ้นๆ มีกำลังมากขึ้น ก็เป็นเหตุ ให้ล่วงศีลได้ เป็นกิเลสที่มีกำลัง เป็นการสร้างเหตุที่ไม่ดีให้กับตนเอง พร้อมที่จะ เป็นเหตุให้เกิดผลที่ไม่ดีในภายหน้า
การล่วงศีลข้อประพฤติในกาม จะมีโทษน้อย ก็เพราะบุคคลที่ตนเองล่วง เป็น ผู้ปราศจากคุณ จะมีโทษมากเพราะบุคคลที่ตนเองล่วงนั้น มีคุณมากและผลโดย ตรงที่สุดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ คือ สามารถนำเกิดในอบายภูมิได้ เป็นเหตุให้ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส ถ้าหากว่าเป็นผู้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ก็ทำให้เป็นผู้มากไปด้วยศัตรู
ประโยชน์ที่ได้ศึกษาในเรื่องนี้ คือ เข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริง เห็น โทษเห็นภัยของกิเลส ไม่ควรกระทำในสิ่งที่ผิด เพราะไม่คุ้มอย่างแน่นอน ความ เข้าใจพระธรรมเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องอุปการะเกื้อกูลประคับประคองชีวิตให้ดำเนิน ไปในทางที่ถูกที่ควร ไม่กระทำในสิ่งที่ผิด มีการล่วงศีลข้อต่างๆ เป็นต้น ครับ
ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
กาเมสุมิจฉาจารมีองค์ประกอบ ๔ อย่าง
สัพพลหุสสูตร
กาเมสุมิฉาจาร
เกณฑ์หรือมาตราฐานในการวัดการผิดศีลข้อ ๓
การผิดศีลข้อ 3 (กาเม...)
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ลักษณะ อาการ หรือ สภาพธรรม ของความประพฤติผิดในกาม
- ลักษณะอาการของ ความประพฤติผิดในกาม มีความละเอียดลึกซึ้ง อย่างยิ่ง ซึ่งจะขออธิบาย ดังนี้ ลักษณของความประพฤติผิดในกาม ด้วยสภาพธรรมที่เป็นอกุศลจิต เกิดด้วย อกุศลจิต อันมีโลภะ เป็นมูล คือ อาศัย ความยินดี ติดข้อง เป็นเหตุ จึงให้ล่วงการ ประพฤติผิดในกาม ที่เป็น กาเมสุมิจฉาจาร ลักษณะอาการ คือ เกิดจากอกุศลจิต อัน เกิดทางกายทวาร คือ ประพฤติเป็นไปทางกาย ด้วย อกุศล อันมีเจตนาที่เป็นทุจริต ซึ่ง ในพระไตรปิฎก แสดงลักษณะอาการของ กาเมสุมิจฉาจารไว้ดังนี้ ครับ
[เล่มที่ 17] พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑- หน้าที่ 548
แก้กาเมสุมิจฉาจาร
ก็บทว่า กาเมสุ ในข้อว่า กาเมสุมิจฺฉาจาโร นี้ ได้แก่ เมถุนสมาจาร.ความประพฤติลามกที่บัณฑิตตำหนิโดยส่วนเดียว ชื่อว่า มิจฉาจาร
จากข้อความในพระไตรปิฎก แสดงลักณะอาการของ กาเมสุมิจฉาจาร ว่า การประพฤติที่บัณฑิตติเตียน ด้วยเป็นอกุศลธรรม และ ถึงความเป็นเมถุนธรรม อันเป็นการเสพของชาวบ้าน แต่ไม่ใช่เพียง สามี ภรรยา ที่ถูกต้อง แต่ด้วยการล่วงใน บุคคลที่ไม่ควรล่วง ต้องห้าม จึงเรียกว่า มิจฉาจาร อันเป็นการประพฤติที่ควรตำหนิ กาเมสุมิจฉาจาร จึงหมายถึง การประพฤติทีเป็นไปในกาม ที่ควรตำหนิ ซึ่งลักษณะ อาการก็เป็นอกุศลจิตที่ล่วงออกมาทางกาย ในฐานะที่ไม่สมควรที่จะล่วงในบุคคลอื่น ครับ
เมื่อเกิดจิตคิดจะเสพด้วยอกุศลจิต มีโลภะ เป็นต้น ก็มีความพยายามที่จะเสพ ด้วยความพยายามทางกาย และในวัตถุ คือ หญิงที่ต้องห้าม และสุดท้ายก็มีการเสพ เมถุนธรรม ก็เป็นการล่วงศีล ข้อ กาเมสุมิจฉาจาร ครับ
และ โทษทัณฑ์ ของความประพฤติผิดในกาม
ตามลำดับ หยาบไปละเอียด หรือ น้อยไปหามาก ได้แก่ อะไรบ้าง
- ความประพฤติผิดในกาม ที่เป็นการล่วงศีลข้อที่ ๓ กรรมโดยตรงย่อมเป็นเหตุให้ เกิดในอบายภูมิ มี นรก นี่คือ กรรมหนักที่สุด แต่รองลงมาตามลำดับ ก็คือเกิดในสัตว์ ดิรัจฉานต่อมา และเมื่อเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานแล้ว อกุศลกรรมย่อมอุปถัมภ์ให้ผลต่อ มีการถูกตอนอวัยวะเพศ ดั่งเช่น อดีตชาติของท่านพระอานนท์เกิด เป็นลาและถูกเขา ตอน ด้วยเศษกรรมของการล่วงศีลข้อที่ ๓ และอกุศลกรรม คือ ผลของการล่วงศีลข้อ ๓ รองลงมา คือ เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ ผลของการล่วงศีลข้อที่ ๓ ย่อมจะเป็นปัจจัยให้เกิด เป็นผู้หญิงโดยมาก ไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย และแม้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพศ อะไร ก็จะมีคนไม่ชอบมากๆ มีศัตรูมาก คือ บุคคลที่ไม่ชอบมากนั่นเอง ด้วยเหตุผล ที่ว่า ก็ตนเองไปละเมิดในบุคคลที่รักของคนอื่น ซึ่งคนอื่นรู้ ก็ย่อมไม่ชอบในสิ่งนั้น เพราะเป็นการพรากจากสิ่งที่รัก ดังนั้น กรรมนั้นก็เป็นปัจจัยไม่ให้ได้ในสิ่งที่รัก คือ ได้ ในสิ่งไม่น่ารัก ไม่ชอบใจ และความไม่ชอบ ความเกลียดชังของคนอื่น ครับ นี่คือ เศษ ของกรรมของกาเมสุมิจฉาจาร อันแสดงตามลำดับของโทษตั้งแต่หยาบ และละเอียด มากไปน้อย ตามที่กล่าวมา
ขออนุโมทนา ครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การเป็นผู้มีศัตรู การเป็นผู้มีเวร หมายความว่าอย่างไรบ้างคะ กรุณายกตัวอย่างในพระไตรปิฎกด้วยค่ะ (รวมทั้งรายละเอียดผลในนรกด้วยค่ะ)
ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาในความอนุเคราะห์นะคะ
เรียนความเห็นที่ 3 ครับ
การเป็นผู้มีศัตรู เป็นผู้มีเวร สำหรับ นัยของ การประพฤติในกาม ผลวิบากเมื่อเกิดเป็น มนุษย์ย่อมนำมาซึ่ง ศัตรู เวร คือ มี บุคคลที่ไม่ชอบ มีบุคคล ที่รังเกียจ มีเวร โดย สัตว์ บุคคล ที่ไม่ชอบบุคคลนั้น ครับ ซึ่ง ตามเหตุผลที่กระผมให้ไปในข้างต้น คือ แม้ เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไร ก็จะมีคนไม่ชอบมากๆ มีศัตรูมาก คือ บุคคล ที่ไม่ชอบมากนั่นเอง ด้วยเหตุผลที่ว่า ก็ตนเองไปละเมิดในบุคคลที่รักของคนอื่น ซึ่ง คนอื่นรู้ ก็ย่อมไม่ชอบในสิ่งนั้นเพราะเป็นการพรากจากสิ่งที่รัก
การเป็นผู้มีศัตรู มีเวร จึงหมายถึง มีคนที่ไม่ชอบ รังเกียจ ตามที่กล่าวมา ครับ แต่ หากกล่าวถึง ศัตรู ที่แท้จริง ที่ไม่ได้มุ่งหมายถึง ผลของกรรมที่ประพฤติผิด ในกาม แล้ว ก็คือ กิเลส ที่เป็นอกุศลทั้งหลาย เป็นศัตรูที่แท้จริง รวมทั้ง อกุศลธรรม โดยเฉพาะ อกุศลกรรมทั้งหลายที่ทำ เป็นเวร เป็นสภาพธรรมที่นำมาซึ่งภัย เพราะ ฉะนั้น ศัตรูที่แท้จริง เวรที่แท้จริง คือ กิเลส อกุศลธรรรม และ อกุศลธรรมที่บุคคล กระทำ เพระาฉะนั้น ขณะที่ทำบาป มีการประพฤติผิดในกาม ก็เกิด ศัตรูที่แท้จริง เพราะทำด้วยอกุศลจิต และ มี เวร เพราะ ล่วงศีล ทำอกุศลกรรมบถ และ เป็นเหตุ ให้ได้รับ ผลที่ไม่ดีเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ คือ มีคนที่ไม่รัก ไม่ชอบ ที่เป็นสัตว์บุคคล ที่เป็น ศัตรู และ เวรโดยนัยสมมติที่เป็นสัตว์ บุคคล ครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ