ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สรุปสาระสำคัญของการสนทนาพระสูตร
มิจฉัตตสูตร
ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
วันเสาร์ที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๐
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจผิด จะพูดผิดไหม จะทำผิดไหม? ก็ไม่มี
~ การไม่รู้ความจริง ก็ทำให้เกิดกิเลส (เครื่องเศร้าหมองของจิต) อื่นๆ ทั้งหมด
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องจิต (สภาพธรรมที่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์) ให้เข้าใจว่า เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เรา
~ ปัญญาเท่านั้นที่จะเข้าใจพระพุทธพจน์ทุกคำที่ตรัส จากที่ได้ทรงตรัสรู้แล้ว
~ ลองคิดดู "นั่งสมาธิ กับ เข้าใจธรรม" ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ว่าอะไรถูกต้อง อะไรเป็นประโยชน์
~ ขณะที่ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ สมาธิ (ความตั้งมั่น) ก็เป็นกุศล ขณะนั้นก็ผ่องใสด้วยความเข้าใจจากการที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อนเลย
~ ทั้งหมดของพระธรรมที่ได้ฟัง เพื่อเข้าใจให้ถูกต้องว่าไม่ใช่เรา จนกว่าจะละความเป็นเราได้
~ เมตตา (ความเป็นมิตรเป็นเพื่อน) เป็นกุศลไหม? เป็นกุศล, ต้องนั่งไหมถึงจะเป็นกุศล?
~ ธรรมก็คือชีวิตประจำวันทั้งหมด แต่ไม่มีใครเปิดเผยให้รู้ว่าชีวิตประจำวันนี่แหละเป็นธรรมเท่านั้น ไม่ได้เป็นอย่างอื่นเลยทั้งสิ้น นอกจากจะมีการทรงตรัสรู้และได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ได้ทรงตรัสรู้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นสิ่งที่มีแล้วทั้งหมดก็เปิดเผยว่าอะไรบ้าง ขณะไหนบ้าง (เป็นธรรม)
~ ถึงเวลาหรือยังที่ชาวพุทธ (ซึ่งกล่าวว่าตนเองเป็นชาวพุทธ) จะได้ตื่นเสียทีจากความหลับซึ่งไม่รู้อะไรเลย
~ จะหมดความเห็นผิดได้อย่างไร? ฟังพระธรรมด้วยความเคารพ
~ ถ้ายังไม่มีปัญญาตราบใด อกุศลต่างๆ ก็ยังมีเหตุปัจจัยที่จะเกิดขึ้นเป็นไปตราบนั้น แต่ว่าเมื่อมีความเข้าใจแล้ว ความเข้าใจนั้นก็ค่อยๆ ทำให้กุศลธรรมเจริญขึ้น อกุศลก็ลดน้อยลง
~ ขณะใดก็ตามที่ไม่เข้าใจธรรม ขณะนั้น ก็ไม่รู้
~ กำลังของปัญญามีมากเท่าไหร่ ก็เพิ่มการที่จะละคลายอกุศลมากเท่านั้น
~ ถ้าเคารพพระธรรม ก็ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ
~ ขณะที่ไม่อภัย เป็นโทษกับใคร? เป็นโทษของผู้นั้น ก็สะสมไป ใครก็เอาออกไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่อภัย เพราะฉะนั้น ปัญญา เท่านั้น ที่เห็นโทษของอกุศล รู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรเลยทั้งสิ้น กั้นกุศลด้วย
~ ถ้าปัญญาไม่เกิด อะไรก็ไปทำหน้าที่ของปัญญาไม่ได้ อวิชชาก็ทำหน้าที่ของอวิชชา (ความไม่รู้) ไป โทสะ ความขุ่นเคืองใจ ก็ไม่อภัย
~ การบวชไม่ใช่คนอื่นจะให้ใครบวชได้ ต้องเป็นผู้ที่รู้อัธยาศัยของตนเองจริงๆ ว่าสามารถที่จะสละเพศคฤหัสถ์โดยขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต โดยการศึกษาให้เข้าใจพระธรรมจึงจะสามารถดำรงอยู่ในเพศบรรพชิตได้ เพราะฉะนั้น บรรพชิต เป็นเพศที่ควรแก่พระอรหันต์ (ผู้ห่างไกลแสนไกลจากกิเลสโดยประการทั้งปวง)
~ เรื่องเงินทองไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เป็นเรื่องที่ทำลายชีวิตของบรรพชิตของพระภิกษุ เพราะนำมาซึ่งความต้องการติดข้องในรูปเสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย) อันแสดงความเป็นเพศคฤหัสถ์
~ บรรพชิต แปลว่า สละ, เว้น ถ้าพระภิกษุรับเงิน สละหรือเปล่า? แค่นี้ก็ตรงกันข้ามแล้ว ไม่จริงใจ ไม่ตรง
~ พระภิกษุ ยินดีในอะไร? ยินดีในการเข้าใจธรรม ในการสละชีวิตเพื่อศึกษาธรรม และขัดเกลากิเลสต่างจากเพศคฤหัสถ์โดยต้องประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยทุกข้อ จึงจะเป็นการเคารพและจริงใจต่อการที่สละเพศคฤหัสถ์สู่เพศบรรพชิต
~ สิ่งที่ได้ฟังมาแล้วทั้งหมด (พระธรรม) ประโยชน์อยู่ที่ตรงที่ ได้ประพฤติปฏิบัติตาม ขัดเกลากิเลสทั้งด้วยความเข้าใจและด้วยความประพฤติทางกายทางวาจา.
ขอเชิญคลิกฟังบางช่วงบางตอนของการสนทนาวันนี้ได้ที่นี่ครับ
ไม่ให้อภัย ใครกันแน่ที่สะสมโทษ
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และ อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอกราบอนุโมทนาอาจารย์และสหธรรมิกทุกๆ ท่าน
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และกราบอนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาสาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ