ภิ. ความหมายของการได้เข้าใจจริงๆ กับได้จำได้จริงนี้ พวกเราค่อนข้างจะสับสนและค่อนข้างจะมีความรู้สึกว่า ความเข้าใจของพวกเรา ก็คือว่า ได้อ่าน ได้หลายเล่มการศึกษาได้หลายขั้น การเลื่อนขั้นในระดับการศึกษาได้เยอะ เราก็คิดกันว่า นั่นคือความเข้าใจ แต่ในขบวนการเข้าใจของท่านผู้บรรยายที่บรรยายให้เราได้รู้นี้ ดูเหมือนคล้ายกันแต่แตกต่างกัน โดยลักษณะที่เข้าใจในความลึกซึ้งซึ่งต่างจากการจำและท่องได้ อยากให้ได้อธิบายถึงความเข้าใจกับความทรงจำ หรือจดจำ หรือเก็บข้อมูลเหล่านี้มันแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้เกิดความกระจ่าง
อ. ถ้าศึกษาเรื่องราวของธรรม โดยไม่รู้ว่าธรรมอยู่ที่ไหน ก็จะไม่เจอธรรมะเลย เพราะว่าเป็นการรู้เรื่องราวเท่านั้นเช่น ถ้าเปิดพระไตรปิฎก ไม่ว่าจะเป็นพระสุตตันตปิฎก หรือพระอภิธรรมปิฎก หรือแม้พระวินัยปิฎก เป็นเรื่องราวทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่าสภาพธรรมอยู่ตรงไหน แต่ถ้าเข้าใจว่าสภาพธรรมมีอยู่ เกิดปรากฏทุกขณะ ในชีวิตไม่ขาดธรรมะเลย ขณะที่เกิดก็เป็นธรรมะที่เกิด ขณะเห็นก็เป็นธรรมะที่เห็น ขณะคิดก็เป็นธรรมะที่คิด ก็จะเข้าใจได้ว่า การศึกษาธรรมะนั้น ไม่ใช่เพียงศึกษาเรื่องราวที่มีปรากฏในหนังสือ ในตำรา แต่เป็นการศึกษาเพื่อเข้าใจในลักษณะของสภาพธรรมเดี๋ยวนี้ซึ่งเป็นธรรม แต่อวิชชาไม่สามารถที่จะรู้ได้ อวิชชาไม่สามารถจะเข้าใจได้เลย
เพราะว่าอวิชชา เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นอกุศลเมื่อเกิดขึ้นก็ทำให้ไม่เห็นความจริงของสิ่งที่ปรากฏ ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เพราะฉะนั้น เวลาที่ศึกษาธรรมะต้องเข้าใจด้วยว่าศึกษาเพื่ออะไร เพื่อเข้าใจธรรมะตัวจริงๆ ซึ่งเป็นชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายทุกขณะๆ สามารถที่จะเข้าใจได้
ขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ