พระโสดาบันละอิสสาและมัจฉริยะได้ มีความหมายว่าอย่างไร
อิสสา (ริษยา) มีความริษยาสมบัติผู้อื่นเป็นลักษณะ
มัจฉริย (ตระหนี่) มีการปกปิดสมบัติของตนเป็นลักษณะ ธรรมทั้ง ๒ ประเภทนี้ เป็นอกุศลที่หยาบ ผู้ที่มีปัญญาระดับพระโสดาบัน ละได้แล้วด้วยปัญญาขั้นโสตาปัตติมรรค
เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
อิสสาและมัจฉริยะเป็นไฉน? [ธรรมสังคณี]
พระโสดาบันท่านละอิสสาและมัจฉริยได้ด้วยปัญญา และกิเลสที่ท่านละแล้ว จะไม่กลับมาเกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ค่ะ ปิดประตูอบายสนิทค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
[เล่มที่ 14] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้าที่ 175
ข้อความบางตอนจากอรรถกถา สักกปัญหสูตร
ก็แล ความริษยาและความตระหนี่ที่เป็นเครื่องประกอบ (สัตว์ไว้ในภพ) นี้ จะละได้ก็ด้วยโสดาปัตติมรรค. ตลอดเวลาที่ยังละมันไม่ได้ เทวดาและมนุษย์ แม้ปรารถนาความเป็นผู้ไม่มีเวรเป็นต้น อยู่ก็ตาม ก็หาได้รอดพ้นไปจากเวรเป็นต้น ไม่เลย.
เรื่อง เหตุให้เกิดความริษยาและความตระหนี่ คือ อารมณ์อันเป็นที่รักและไม่เป็นที่รัก
เชิญคลิกอ่านได้ที่ ...
เหตุให้เกิดความริษยาและความตระหนี่ [สักกปัญหสูตร]
ยินดีในกุศลจิตค่ะ