ผมเข้าใจว่า เพราะความจำและบารมีน้อยจึงทำให้ไม่สามารถจำหรือระลึก ด้วยเหตุผลได้ถึงกฎแห่งกรรม เคยอ่านในหนังสือของแม่ชีท่านหนึ่ง ท่านพูดยังกะว่า ท่าน มองเห็นอดีตชาติ และการกระทำแต่ปางก่อนของบุคคลนั้นๆ ว่า เคยทำอะไรมาในชาติก่อนถึงได้เป็นอย่างนี้ (เป็นหนังสือขายดีในร้านชั้นนำ) แต่ถ้าอธิบายกฏแห่งกรรม ตามหลักอภิธรรมของ จิต เจตสิก ของอ.สุจินต์ มีเหตุผลอ้างพุทธพจน์ จึงน่าเลื่อมใส
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณครับ
เรื่องกรรมและผลของกรรมเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้งมาก นอกจากพระพุทธเจ้าแล้วบุคคลอื่นไม่สามารถรู้รายละเอียดทั้งหมดได้ เมื่อรู้ไม่ได้ พระพุทธองค์จึงทรงแสดงว่า เรื่องวิบากกรรมสำหรับบุคคลทั่วไป เป็นอจินไตย สมดังข้อความในพระสูตรว่า
[เล่มที่ 34] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 235
ข้อความบางตอน
อจินติตสูตร
วิบากแห่งกรรม เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า บทว่า กมฺมวิปาโก ได้แก่ วิบากของกรรมมีกรรมที่จะพึงเสวยผลในปัจจุบันเป็นต้น.
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ผู้ที่ไม่มีปัญญา เมื่อคิดในสิ่งที่ไม่ใช่ฐานะตามปัญญาที่ตนจะรู้ได้ ย่อมฟุ้งซ่านและเป็นบ้าได้ ผู้มีปัญญาย่อมสามารถคิดได้ ตามกำลังปัญญาในเรื่องนั้นๆ การจะรู้เรื่องกรรม และผลของกรรมที่ทำมานั้น ก็ต้องมีเหตุที่รู้ เช่น อบรมสมถภาวนาจนถึงสามารถระลึกชาติได้ เป็นต้น ดังนั้นควรมองไปที่เหตุ ว่าที่รู้เพราะปัญญาและปัญญานั้นอบรมอย่างไรถึงรู้ได้ เพราะพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของเหตุผล เหตุต้องสมควรแก่ผลครับ
แม้ขณะนี้ก็มีผลของกรรม ทราบหรือไม่ และเป็นผลของกรรมอะไร และถ้ารู้ได้เพราะอบรมปัญญาอย่างไร
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขอความนอบน้อมจงมีแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุโมทนาครับ ขอบคุณครับ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ