"มีสำนัก ฝึกนั่งกรรมฐานแห่งหนึ่ง ได้สอนให้นั่งกรรมฐาน เพื่อยกผลบุญนี้ให้ เจ้ากรรมนายเวร เมื่อเจ้ากรรมนายเวรพอใจแล้ว กรรมนั้นก็จะเป็นโมฆะ" อยากทราบว่า ในเมื่อทำกรรมไปแล้ว แต่ไปนั่งกรรมฐาน เพื่อยกบุญทดแทนไป จะทำให้บาปกรรมเบาบางลงจริงหรือ แล้วที่มีการบอกว่า นั่งฌาน เพื่อยกบุญกุศลนี้เพื่อหนีกรรมได้ เพราะเป็น ครุกรรมฝ่ายกุศล นั้น เป็นความจริงหรือ
การเจริญสติปัฏฐานของพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระอริยสาวกทั้งหลาย เพื่อรู้แจ้งอริยสัจจธรรมตามความเป็นจริง มิใช่เพื่อจุดประสงค์อย่างอื่น ถ้ามีจุดประสงค์อย่างอื่นชื่อว่าไม่ปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติตรงตามพระธรรมคำสอนควรศึกษาพระธรรมคำสอนให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ส่วนคำสอนอื่นๆ ที่นอกจากพระไตรปิฎก และอรรถกถาแล้วไม่ควรใส่ใจเลย
กรรมนั้น ย่อมให้ผลตามควรแก่เหตุ เมื่อเหตุมีแล้ว ผลย่อมมี ไม่ว่ากรรมดี หรือ กรรมชั่ว แม้แต่พระอรหันต์ซึ่งเป็นผู้หมดจากกิเลส ก็ยังต้องได้รับอกุศลวิบาก เพียงแต่ ท่านไม่เป็นผู้ที่หวั่นไหว เพราะไม่มีปัจจัยคือ กิเลส ไม่มีใครหนีวิบากกรรมได้เลยนะคะ แม้แต่พระผู้มีพระภาคฯ ซึ่งเป็นผู้ที่ประเสริฐสูงสุด พระองค์ก็ยังได้รับความทุกข์ทรมานทางกาย (ประชวร) ได้รับคำตำหนิติเตียน ได้รับโภชนาหารอันไม่ประณีตในบางกาลรวมถึงพระอริยบุคคลท่านอื่นๆ ซึ่งมีตัวอย่างมากมายในพระไตรปิฎก ความทุกข์ทั้งหลาย ทุกข์ใจ หรือกิเลสทุกข์ เป็นสภาพที่เราสามารถ ละคลายได้ด้วยปัญญา เมื่อยังมีกิเลสก็ย่อมมีทุกข์ค่ะ ท่านเปรียบไว้ว่า ทุกข์ใจนั้นเปรียบเสมือนการยิงลูกศรดอกที่สองซ้ำลงไปที่แผลเก่า ก็คงต้องทุกข์มากขึ้นไปอีกใช่มั้ยคะ ถ้าขาดปัญญา
ขออนุโมทนาครับ