เห็นวิปัสสนาญาณมีถึง 16
อยากทราบว่าพระโสดาบันท่านบรรลุทั้ง 16 เลยหรือไม่
ถ้าไม่... เช่นนั้นผู้ที่เป็นโสดาบัน จะต้องบรรลุถึงขั้นไหน
ขอบคุณครับ..
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ผู้ที่บรรลุเป็นพระโสดาบัน ต้องมีปัญญาเป็นไปตามลำดับคือต้องได้วิปัสสนาญาณขั้น ที่ 1 ถึง 16 ซึ่งในขณะที่เป็นวิปัสสนาญาณขั้นที่ 14 คือมัคคญาณ (โสดาปัตติมรรค) ก็ ก้าวผ่านความเป็นปุถุชนสู่ความเป็นพระอริยบุคคล (พระโสดาบัน) และวิปัสสนาญาณ ขั้นที่ 15 และ 16 ก็ต้องเกิดเช่นกันครับ
เชิญคลิกอ่านที่นี่...
วิปัสสนาญาณ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาครับ
พระสกทาคามี พระอนาคามีและพระอรหันต์จะต้องเริ่มจากวิปัสสนาญาณขั้นที่ 1-16 อีก หรือไม่ และต่างกันอย่างไร
เรียน ความเห็นที่ 3
ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจครับว่าการอบรมปัญญาเพื่อดับกิเลสนั้นคืออย่างไรซึ่งก็คือการ อบรมเจริญสติปัฏฐาน รู้ความจริงว่าเป็นนามธรรมและรูปธรรม เพราะฉะนั้นปัญญาก็ ต้องรู้สภาพธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น ผู้ที่จะบรรลุความเป็นพระโสดาบัน ก็ต้องอบรมปัญญาเริ่มจากการฟังให้เข้าใจในเรื่องนามธรรมและรูปธรรมหรือสภาพธรรมจนเป็นปัจจัยให้สติเกิด (สติปัฏฐาน) รู้ลักษณะของสภาพธรรม (นามธรรมและรูปธรรม) ว่า เป็นธรรมไม่ใช่เรา เมื่อสติเกิดขึ้นบ่อยๆ ทั่วทั้ง 6 ทวารจนเป็นปัจจัยให้แทงตลอดสภาพ ธรรมที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมโดยชัดเจนด้วยปัญญา ก็เป็นวิปัสสนาญาณที่ 1 และ ก็อบรมปัญญาจนถึงวิปัสสนาญาณที่ 2 ถึง 16 ถึงความเป็นพระโสดาบัน
เพราะฉะนั้นจากคำถามที่ว่าแล้วพระสกทาคามีหรือพระอริยบุคคลที่สูงขึ้นไปต้องผ่าน วิปัสสนาญาณทั้ง 16 หรือไม่ ตามที่ได้อธิบายในตอนต้นไว้ว่า การอบรมปัญญาก็เพื่อ รู้ความจริงคือนามธรรมและรูปธรรม เพราะฉะนั้น เมื่อบรรลุความเป็นพระโสดาบันแล้ว ปัญญาที่จะต้องรู้ก็ไม่พ้นจากนามธรรมและรูปธรรม พระสกทาคามี ก็ยังจะต้องอบรม เจริญสติปัฏฐาน (สติปัฏฐานเกิด) ไม่ได้หมายความว่า เมื่อเป็นพระโสดาบันแล้ว ก็ไม่ ต้องอบรมสติปัฏฐานอีก ซึ่งเป็นทางสายเดียวที่จะดับกิเลส ไม่มีทางอื่น พระอริยบุคคล มีพระสกทาคามี เป็นต้น ก็ยังจะต้องฟังธรรม ต้องอบรมเจริญสติปัฏฐานเพื่อเป็นปัจจัย ให้ปัญญาคมกล้าเพื่อผ่านวิปัสสนาญาณขั้นที่ 1-16 แต่ความต่างก็คือความละเอียด ความคมกล้าของปัญญาที่เป็นวิปัสสนาญาณของพระโสดาบันกับพระสกทาคามีก็ต้อง ต่างกัน เพราะเมือ่เป็นพระโสดาบันก็ได้รู้มาแล้ว แต่ที่สำคัญก็อาศัยความรู้ที่เคยเห็น ประจักษ์นั่นแหละครับ เพราะฉะนั้น พระอริยบุคคลที่สูงกว่าพระโสดาบันก็ต้องอาศัย การฟังและก็ต้องเจริญสติปัฏฐาน สติปัฏฐานท่านก็ต้องเกิดและก็เป็นปัจจัยให้ได้ วิปัสสนาญาณตามขั้น ไม่ใช่ข้ามไปที่วิปัสสนาญาณที่ 4 เลย ก็ต้องเป็นไปตามลำดับ เช่นกัน ไม่ว่าบุคคลใด แต่บางท่านเพราะสะสมมามาก ปัญญาจึงเกิดได้เร็วครับ แต่ก็ ต้องเป็นไปตามลำดับ ดังนั้นเมื่อบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้วก็ต้องอบรมเจริญสติปัฏฐานด้วยครับ และบรรลุไปตามลำดับของปัญญา
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณครับ...
'u'
อนุโมทนาในธรรมทานที่ผู้ตอบแสดงไว้ดีแล้ว..
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ผู้ที่มีปัญญาขั้นวิปัสสนาญาณขั้นที่1 ย่อมเจริญขึ้นไปโดยลำดับ เหมือนงาช้างที่
งอกย่อมยาวไปจนสุด หรือหยุดแค่นั้น หรือถูกตัดด้วยอกุศล เหมือนงาช้างที่ถูกตัด
เรียน ความเห็นที่ 12 และ 13
สำหรับผู้สะสมปัญญามามาก เมื่อปัญญาเกิด คือ วิปัสสนาญานขั้นที่ 1 เกิด วิปัสสนาญานขั้นที่ 2 ก็เกิดต่อเรื่อยไปอย่างรวดเร็วมากจนบรรลุเป็นพระอริยบุคคล แต่ก็ไมได้ หมายความจะต้องเป็นอย่างนี้ทุกคน แล้วแต่การสะสมปัญาของแต่ละคน ผู้ที่สะสม ปัญญามาไม่มากขนาดนั้น เมื่อเหตุปัจจัยได้บรรลุถึงวิปัสสนาญานขั้นที่ 1 แต่ไม่จำเป็น ต้องเกิดวิปัสสนาญานขั้นที่ 2 ต่อไปทันทีเพราะปัญญายังไม่คมกล้า แต่ความรู้ความ เข้าใจที่เกิดขึ้นที่ได้ประจักษ์แจ้งวิปัสสนาญานที่ 1 ไม่ได้หายไปก็สะสมแล้ว เมื่อเหตุ ปัจจัยพร้อมก็สามารถเกิดวิปัสสนาญานขั้นต่อไปได้ แต่เป็นไปตามลำดับครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ แจ่มแจ้งในคำตอบเมื่อได้อ่าน
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาครับ