ขอความกระจ่างจากผู้รู้ ช่วยให้ความกระจ่างด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บุคคลผู้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล (เว้นอสัญญสัตตาพรหม ซึ่งมีแต่รูปธรรมเท่านั้น) มีจักขุปสาทะ (ตา) มีโสตปสาทะ (หู) ซึ่งยังสามารถได้ฟังยินได้ฟังพระธรรม ได้สะสมอบรมเจริญปัญญา เพื่อเข้าใจในความเป็นจริงของธรรม ทั้งที่เป็นนามธรรม และ รูปธรรม ได้ เพราะยังเป็นภูมิที่มีขันธ์ ๕ ครบ สามารถประจักษ์แจ้งในความเป็นธรรมได้ และไม่ใช่ว่าจะมีเพียง ทวารตา กับ ทวารหู เท่านั้น ยังมีวิถีจิตที่เกิดขึ้นเป็นไปทางใจด้วย ซึ่งจะต้องเป็นผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริงของสภาพธรรมเท่านั้น จึงจะได้รับประโยชน์จากพระธรรม เมื่อเหตุปัจจัยพร้อมก็สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นระอริยบุคคลได้ ดังนั้น แม้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล จึงสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมถึงความเป็นพระอริยบุคคลได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาครับ
เรียน อ.คำปั่น
กราบขอบพระคุณยิ่งที่ให้ความเข้าใจ แต่ยังสงสัยว่าการได้ฟังธรรมสามารถเข้าใจความจริงของธรรมทั้งที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมได้ทางทวารตาและหูและทางใจเท่านั้นก็สามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ โดยไม่ต้องรู้รูปธรรมนามธรรมตามความเป็นจริงอีก ๓ ทวารก็ได้หรือค่ะ หมายถึงว่าไม่ต้องรู้ทั่วทั้ง ๖ ทวารนะค่ะ ขอความกระจ่างอีกครั้งค่ะ
เรียน ความคิดเห็นที่ 3 ครับ
กว่าที่ท่านจะได้รู้แจ้งอริยสัจจธรรม ก่อนที่จะได้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล ท่านก็ต้องเคยอบรมปัญญามาแล้ว ก็ต้องเคยรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงในทวารต่างๆ มาแล้ว สิ่งที่สะสมมาแล้วไม่สูญหายไปไหน ดังนั้น เมื่อเกิดเป็นรูปพรหมในรูปพรหมภูมิ มีสภาพธรรมใดปรากฏ ท่านก็รู้ตรงตามความเป็นจริงเท่าที่มีเท่าที่ปรากฏให้รู้ได้ จนประจักษ์แจ้งความจริง รู้แจ้งอริยสัจจธรรมเป็นพระอริยบุคคลได้ ครับ
...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...
กราบขอบพระคุณยิ่ง เข้าใจแล้วค่ะ
ขอบพระคุณ และยินดีอย่างยิ่งในกุศลจิต อ.คำปั่น ด้วยค่ะ