อดีตชาติเคยเป็นมาแล้ว
โดย Kuat639  27 มิ.ย. 2567
หัวข้อหมายเลข 47977

เคยได้ยินได้ฟังมาว่าชีวิตคนเราสิ่งที่ประสบพบเจอในชาตินี้..ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน ชนชั้นวรรณะสูงวรรณะต่ำ.คนดี คนชั่ว คนมีความสุข คนมีความทุกข์..ล้วนแล้วแต่เคยเป็นมาแล้วในชาติก่อนๆ ..ความจริงในเรื่องนี้.เป็นอย่างไร.ขอคำอธิบายด้วยครับ..



ความคิดเห็น 1    โดย khampan.a  วันที่ 29 มิ.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๒๔

๑. ทุคคตสูตร
(
ว่าด้วยสังสาระกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้เหมือนทุคตบุรุษ)

[๔๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณ-ฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สังสาระนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ เธอทั้งหลายเห็นทุคตบุรุษ (คนตกทุกข์ได้ยาก) ผู้มีมือและเท้าไม่สมประกอบ พึงลงสันนิษฐานในบุคคลนี้ว่า เราทั้งหลายก็เคยเสวยทุกข์เห็นปานนี้มาแล้วโดยกาลนานนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสังสาระนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ

จบสูตรที่ ๑


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๒๕
๒. สุขิตสูตร
ว่าด้วยสังสาระกำหนดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เหมือนบุคคลผู้มีความสุข

[๔๔๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย . . . แล้วได้ตรัสว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สังสาระนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ. . . เธอทั้งหลายเห็นบุคคลผู้เพียบพร้อมด้วย
ความสุข มีบริวารคอยรับใช้ พึงลงสันนิษฐานในบุคคลนี้ว่า เราทั้งหลายก็เคยเสวยสุขเห็นปานนี้มาแล้วโดยกาลนานนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไรเพราะว่า สังสาระกำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯล ฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้.

จบสุขิตสูตรที่ ๒


ตราบใดที่ยังมีอวิชชา ความไม่รู้ อีกทั้งยังมีตัณหา ความติดข้อง ยินดีพอใจเป็นเครื่องผูกไว้ จึงยังมีการเกิดอยู่ร่ำไปหมุนเวียนอยู่ในสังสารวัฏฏ์ จากภพหนึ่งไปสู่อีกภพหนึ่ง เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิดอย่างไม่มีวันจบสิ้น ที่สุดของสังสารวัฏฏ์ย่อมไม่ปรากฏ ซึ่งก็ได้เกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เคยเป็นมาแล้วทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นพระราชา คนมั่งมี คนตกทุกข์ได้ยาก คนมีความสุข เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นต้น ดังนั้น จึงควรที่จะได้พิจารณาว่า เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว มีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย อีกทั้งไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท กล่าวได้ว่า เป็นชีวิตที่มีค่าเป็นอย่างยิ่ง เป็นการสะสมเสบียงเครื่องเดินทางอย่างดีในสังสารวัฏฏ์ สะสมเป็นที่พึ่งจนกว่าจะดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดไม่มีการเกิดอีกเลยในสังสารวัฏฏ์ ครับ


... ยินดีในกุศลของคุณ Kuat639 และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...


ความคิดเห็น 2    โดย chatchai.k  วันที่ 29 มิ.ย. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ