เนื่องด้วยว่าฟังธรรมบรรยายเทปวิทยุของท่านอาจารย์ ช่วงหนึ่งท่านอาจารย์กล่าวว่า "มรรคมีองค์แปด ไม่มีเจตนาเจตสิก.." ถ้าจำไม่ผิดอาจเป็นครั้งที่ 1683 ค่ะ และก็ไม่แน่ใจว่า ตัวเองฟังผิดหรือไม่ (จำผิด) .. จึงขออนุญาตเรียนถาม ท่านอาจารย์ขอความกรุณาช่วยอธิบายเพิ่มเติมด้วยเถอะค่ะ
ขอบพระคุณค่ะ
ภาวินีย์ ประดิษฐธรรม์
สมาชิกชมรมบ้านธัมมะเลขที่ 417
ควรทราบว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ คือ เจตสิก ๘ ประเภท ได้แก่
๑. ปัญญาเจตสิก (สัมมาทิฏฐิ)
๒. วิตกเจตสิก (สัมมาสังกัปปะ)
๓. สัมมาวาจาเจตสิก วิรตี
๔. สัมมากัมมันตเจตสิก วิรตี
๕. สัมมาอาชีวเจตสิก วิรตี
๖. วิริยเจตสิก (สัมมาวายามะ)
๗. สติเจตสิก (สัมมาสติ)
๘. เอกัคคตาเจตสิก (สัมมาสมาธิ)
ดังนั้น องค์มรรคทั้ง ๘ ประเภทข้างต้นไม่มีเจตนาเจตสิก แต่ว่า ทุกๆ ขณะที่จิตเกิดขึ้น มีเจตนาเจตสิก เกิดร่วมด้วยครับ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์prachern.s ค่ะ
ขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแดพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
หนทางเดียวและหนทางเดิมที่จะทำให้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งพระอริยบุคคลทั้งหลายในอดีตได้อบรมเจริญหนทางนี้มาแล้วด้วยกันทั้งนั้น ครับ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแดพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ในความละเอียดของคำอธิบายที่ว่า มรรคมีองค์แปดไม่มีเจตนาเจตสิก ความหมายคือ การเจริญอบรมปัญญา ไม่ได้หมายถึงจะต้องมีการที่จงใจตั้งใจที่จะพยายามที่จะให้รู้ ให้เกิดสติและปัญญา หรือ ว่าเป็นเรื่องที่จะทำด้วยความจงใจตั้งใจที่เป็นเจตนาเจตสิก แต่เป็นเรื่องการอบรมเจริญปัญญา ที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรม โดยการไม่เจาะจง ไม่จงใจตั้งใจทำ ด้วยเจตนาเจตสิก แต่เมื่อปัญญาถึงพร้อม สติและปัญญาก็สามารถเกิดรู้ความจริงได้
แม้ไม่มีเจตนาจงใจที่จะทำ ดังนั้น มรรคมีองค์แปด จึงไม่มีเจตนาเจตสิกในองค์มรรคนั้น อันแสดงถึงความหมายว่า ไม่มีตัวตนที่จะพยายามเลย เป็นหน้าที่ของมรรคทั้งแปดองค์ คือ หนึ่ง มีปัญญา สัมมาทิฏฐิ ที่ทำหน้าที่รู้ความจริง มี วิตก ที่เป็นสัมมาสังกัปปะจรดในอารมณนั้น มีสัมมาสติ ที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม เป็นต้น โดยไม่มีตัวเราแทรกอยู่ที่จะจงใจตั้งใจทำ ไม่มีเจตนาเจตสิกในองค์แปดนี้ แม้จะมีเจตนาเจตสิกที่เกิดกับจิตทุกดวง แต่เจตนาเจตสิกที่เกิดกับกุศลที่ประกอบด้วยปัญญาในขณะที่มรรคเกิดขึ้น ก็ไม่ได้เป็นการแสดงถึงให้มีการจงใจตั้งใจทำ แต่เป็นการทำหน้าที่ของธรรม เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ว่า เจตนาเจตสิกไม่มีในองค์แปด อันแสดงถึงไม่มีการจงใจ ตั้งใจด้วยตัวตน ที่จะเจริญปัญญา ที่จะพยายามรู้ความจริงด้วยความตั้งใจ หนทางที่ถูก คือ อบรมเหตุ คือการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้ถูกต้อง ปัญญาจะทำหน้าที่เอง โดยไม่มีความตั้งใจที่จะรู้ในมรรคมีองค์แปด ครับ นี่คือ ความละเอียดของพระธรรม ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง และ ท่านอาจารย์สุจินต์อธิบายไว้ ในเรื่องไม่มีเจตนาในมรรคมีองค์แปด
ครับ ขออนุโมทนา
ละเอียดมากค่ะ เข้าใจยาก คงต้องฟังและศึกษาต่อไปเรื่อยๆ
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุๆ อนุโมทนาในคำถาม และคำตอบครับ
ขอบพระคุณท่านอาจารย์prachern.s, paderm, khampan.a และทุกๆ ท่านค่ะ ที่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาคะ
ขออนุโมทนาครับ