แล้วเคยคิดจะลองวัด "ความติดข้อง" ของตัวเองบ้างไหม?ด้วยการฟังพระธรรม แล้วเจริญให้เกิดตัววัดที่ชัดเจนที่สุดซึ่งสิ่งนั้นก็คือ.............? (เฉลยด้านล่างครับ)
มีความสุขจากสีที่ปรากฏทางตานี้ได้สักกี่นาที ก่อนที่เก็บมันไว้แล้ว หันไปมองอย่างอื่น
มีความสุขจากเสียงดนตรี เพลงไพเราะ ที่รับฟังทางหู เพลงเดียวต่อๆ กัน ได้สักกี่รอบ/วัน
มีความสุขจากกลิ่นที่สูดดมแล้วรัญจวลใจทางจมูก กลิ่นเดียวกันต่อๆ กัน ได้สักกี่วินาที
มีความสุขจากรสที่ได้ลิ้มลองของอาหารทางลิ้น รสชาติเดียวกันต่อๆ กัน ได้สักกี่นาที
มีความสุขจากสัมผัสที่น่าปรารถนาที่กระทบทางกาย โดยไม่ปล่อยให้หลุด ได้สักกี่นาที
ที่เหลือก็เป็นเรื่องที่คิดนึกทางใจถึงความสุขทางกายที่เคยได้จาก รูป โผฏฑัพพะ ทั้งหมดทุกๆ วันนี้ปุถุชนติดในกามคุณ ๕ ได้เท่าไรก็ไม่อิ่ม ได้เท่าไรก็ไม่พอ เพราะ โลภะไม่เคยพอสมดังที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไว้ว่า ผู้ที่ติดอยู่ในกามคุณ ๕ ก็ไม่ต่างไปจาก "ลิงติดตัง"
เชิญคลิกอ่านครับ...
โลภะ คือความติดข้อง เหมือนลิงติดตัง
ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มเติม...
ว่าด้วยโทษของกาม [อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต]
เฉลย ตัววัด "ความติดข้อง" ที่ชัดเจนที่สุด คือ "ปัญญา" เท่านั้น
ไม่ใช่ "ตัวตน" ครับ
ขอกราบบูชาคุณพระรัตนตรัย
ช่างหารูปเปรียบเทียบได้ดี เมื่ออ่านแล้วทำให้เกิดปัญญาค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ
ขออนุโมทนา
.....ขออนุโมทนา....
ลองพิจารณาถึงโทษภัยในความไม่รู้แล้วได้กระทำกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรอะไรไปบ้าง ผลกรรมนั้นต้องให้ผลกับเราในภายหน้าแน่นอน ยังจะประมาทเป็นผู้ไม่ใส่ใจศึกษานามธรรมและรูปธรรมอีกหรือ
เป็นธัมมะและเป็นธรรมดา ต้องเข้าใจตรงนี้ จึงละความเป็นธรรมดาได้
ยินดีในกุศลจิตค่ะ