ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ข้อความบางตอนจาก แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ ๗๐๑
บรรยายโดย ...ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
คับแคบ
ผมคิดว่า เกี่ยวกับการเห็นประโยชน์ของกุศลและการเห็นโทษของอกุศล ถ้าสมมติว่าการบวชแล้วไม่เห็นคุณ ไม่เห็นประโยชน์ของการเจริญกุศลกรรมแล้ว ถึงจะบวชเป็นบรรพชิต ก็คิดว่าคับแคบครับ แต่ถ้าได้เป็นฆราวาส แต่ได้เห็นประโยชน์แล้วเข้าใจถูกว่า การเจริญกุศลกรรมทุกประเภทนั้น เป็นแนวทางให้จิตบริสุทธิ์ ไม่ว่าการเจริญพุทธานุสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ซึ่งการเป็นฆราวาสแล้ว สามารถเจริญได้ทุกขณะ และเป็นเครื่องอุปการะ ในการที่จะเจริญสติปัฏฐาน ผมคิดว่าการเป็นฆราวาส ไม่เป็นการคับแคบ ฆราวาสผู้นั้นเป็นผู้เข้าใจถูกและปฏิบัติถูก
ความหมายของคำว่า “คับแคบ” ไม่ได้หมายความถึง สถานที่ หรือ เพศ แต่ว่าหมายความถึง อกุศลผู้ที่จิตใจกลุ้มรุม ด้วยอกุศล แม้จะอยู่ในที่กว้างในป่าในเขา แต่เพราะใจนี้ ถูกบีบคั้นด้วยอกุศลธรรม ทำให้สภาพของจิตนั้น เป็นสภาพจิตที่คับแคบไม่สามารถที่จะปลอดโปร่งได้เพราะฉะนั้น ความหมายของคำว่า คับแคบ นั้นหมายความถึง อกุศลธรรม กลุ้มรุม จนกระทั่งเต็มหัวใจเลยคับแคบ ไม่ใช่ว่า ว่างหรือปลอดโปร่ง ถึงแม้ว่าผู้นั้น จะอยู่ในที่กว้าง มีบ้านเรือนที่ใหญ่โต มโหฬารสักเท่าไร แต่เมื่อถูกกลุ้มรุมด้วยอกุศลธรรมแล้ว ก็เป็นสภาพของจิตที่คับแค้นหรือคับแคบมาก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศของบรรพชิตหรือฆราวาส กิเลส อกุศลธรรมทั้งหลาย ทำให้เป็นผู้ที่อยู่ในที่ คับแคบ ขณะที่ สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ปราศจากความคับแคบได้ เพราะว่าปราศจากนิวรณธรรมต่างๆ
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุรูปหนึ่งซึ่งถูกนิวรณธรรมครอบงำ ดังนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนภิกษุ การที่กายของเธอหนักขึ้น ทิศทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ ธรรมทั้งหลายย่อมไม่แจ่มแจ้งแก่เธอเธอ ไม่ยินดีประพฤติ พรหมจรรย์และเธอมีความสงสัยในธรรมทั้งหลายนี้ ย่อมมีแก่ภิกษุผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ไม่รู้ประมาณในโภชนะ ไม่ประกอบความเพียรเป็นเครื่องตื่นอยู่ ไม่เห็นแจ้งกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่ประกอบการเจริญโพธิปักขิยธรรมทั้งหลายทุกวัน ทุกคืน
ดูก่อนภิกษุ เพราะเหตุนั้นแหละ เธอพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ประมาณในโภชนะประกอบความเพียรเป็นเครื่องตื่นอยู่ เห็นแจ้งกุศลธรรมทั้งหลาย ประกอบการเจริญโพธิปักขิยธรรมทั้งหลายทุกวัน ทุกคืนดังนี้ ดูก่อนภิกษุ เธอพึงศึกษาอย่างนี้แล
ในภายหลังภิกษุนั้นหลีกออกจากหมู่ อยู่ผู้เดียวเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจแนวแน่ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลายขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...
ผู้ที่นิวรณ์ครอบงำจิตไม่ได้ [อุปัชฌายสูตร]
ขออุทิศส่วนกุศลแด่สรรพสัตว์
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศของบรรพชิตหรือฆราวาส กิเลสอกุศลธรรมทั้งหลาย ทำให้เป็นผู้ที่อยู่ในที่คับแคบ ขณะที่สติเกิด ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ปราศจากความคับแคบได้ เพราะว่าปราศจากนิวรณธรรมต่างๆ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ. . . . .
อนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ในบทว่า สมฺพาเธ ที่คับแคบมี ๒ ได้แก่ ที่คับแคบ คือ นิวรณ์ ที่ คับแคบ คือ กามคุณ. (อรรถกถาปัญจาลจัณฑสูตร) ขณะนี้ทุกท่านอาจจะอยู่ในที่กว้างขวางแต่เมื่อสติไม่เกิด ถูกนิวรณ์ครอบงำก็ชื่อว่า คับแคบ อบรมปัญญาในที่คับแคบ ขณะที่นิวรณ์เกิดก็รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เราได้ครับ
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
แม้ในครั้งพุทธกาล บุคคลที่สั่งสมอุปนิสัยมา ท่านเห็นโทษของการครองเรือน ท่านก็ออกบวช เพราะเห็นว่าชีวิตของฆราวาสคับแคบค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
การอบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้ความจริงของสิ่งทั้งปวง ไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพศใดเพศหนึ่งเท่านั้น ขึ้นอยู่กับอัธยาศัยของแต่ละบุคคล ว่าจะมีอัธาศัยที่จะขัดเกลากิเลสในเพศของบรรพชิต หรือ คฤหัสถ์ ซึ่งไม่มีการบังคับ ผู้ที่มีอัธยาศัยที่จะขัดเกลากิเลสในเพศบรรพชิต ก็เพราะเห็นว่า การอยู่ครองเรือน เต็มไปด้วยอกุศล มีความเป็นห่วง-กังวลประการต่างๆ เป็นที่มาของกิเลสนานาประการ ท่านจึงออกบวช โดยเห็นว่าการอยู่ครองเรือน คับแคบ (คับแคบ ต้องเป็นอกุศล ไม่เกี่ยวสถานที่ เพราะเหตุว่า แม้จะอยู่ในที่กว้างขวาง แต่ถูกอกุศลครอบงำ ก็ชื่อว่า คับแคบ) ศึกษาธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูก เห็นถูก ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง เพื่อขัดเกลากิเลสอกุศล (ซึ่งเป็นความคับแคบ) ในชีวิตประจำวัน ค่อยๆ สั่งสมความเข้าใจ ไปทีละเล็กทีละน้อย เพราะเราคุ้นเคยกับอกุศลมามาก จึงต้องใช้เวลาอันยาวนานทีเดียว กว่าที่จะขจัดอกุศลออกไปจากจิตใจได้ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ กับทุกท่าน
ขออนุโมทนาครับ